หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
DBS
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“บวก Brexit สหรัฐ-ตุรกีหยุดยิง แต่ตัวเลขเศรษฐกิจอ่อน”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้ -1.66 จุด ปิดที่ 1632.80 จุด มูลค่าการซื้อขายมากขึ้นเป็น 60.9 พันล้านบาท ดัชนีแกว่งแคบเหมือนภูมิภาค ปัจจัยลบคือ ยอดค้าปลีกสหรัฐต่ำและจีน-สหรัฐขัดแย้งเรื่องฮ่องกง ส่วนการอภิปรายงบประมาณปี 63 เริ่มวานนี้ หุ้นปรับขึ้นเด่นคือ AWC และ GPSC แต่มีแรงขาย ADVANC และ GFPT ซึ่งมีข่าวไฟไหม้ส่วนโรงงานแปรรูปปรุงสุก ซื้อสุทธิคือ สถาบัน โบรกเกอร์ ต่างชาติ ขายสุทธิรายเดียวเป็นรายย่อย ตั้งแต่ต้นเดือนถึงปัจจุบันต่างชาติขายสุทธิเป็น 5 พันล้านบาท ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์คือ
# ปัจจัยสำคัญ: บวกจาก Brexit ใกล้บรรลุข้อตกลง สหรัฐ-ตุรกีดีขึ้น แต่ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาอ่อน ตัวเลขขอรับสวัสดิการครั้งแรก การเริ่มสร้างบ้าน และการผลิตภาคอุตสาหกรรมอ่อนลง ทำให้มีการเข้าซื้อทองคำ ราคาน้ำมันกลับมาฟื้นตัวดี CPW เข้าซื้อขายวันแรก คาดว่าจะคึกคัก ตลาดเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ปรับขึ้น และดัชนีกังวล (Vix)ลดลง แต่ปัจจัยลบคือ สถานการณ์ฮ่องกงที่สหรัฐแทรกแซง กำไร KTC ไม่สดใส 3Q62 ปรับลง ค่าการกลั่นต่ำกระทบกลุ่มโรงกลั่น และตัวแม่คือ PTT และล่าสุดบ.ออก PerpetualBond มีความเสี่ยงบันทึกหนี้เพิ่ม
# ระยะสั้นคาด SET- มีแนวโน้ม Sideway ในทางบวก หลังสถานการณ์ Brexit คลี่คลาย ความขัดแย้งสหัฐ-ตุรดีขึ้น ติดตามผ่านร่างงบประมาณปี 63 ขณะที่รัฐมีความเสี่ยงหากไม่ผ่าน แต่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนเป็นแรงสกัด หุ้นเด่นเป็นกลุ่มเดินทาง-ท่องเที่ยว และพาณิชย์ จากมาตรการส่งเสริมจากรัฐ การลงทุนยังเน้นหุ้น Defensive ปันผลสูงและ Domestic Play หลังเศรษฐฺกิจชะลอ คาด SET ซื้อขายในกรอบ 1625-1650 จุด แนวต้านเป็น 1640-1650 จุด แนวรับอยู่ที่ 1600-1590 จุด การเข้าเก็งกำไรควรเข้าไว-ออกไว กลยุทธ์ คือ เลือกลงทุนทยอยสะสม เป็นรายกลุ่มและรายตัว (Selective) ตาม Theme เป้าหมายดัชนีปีนี้ 1680 ปีหน้า 1725 จุด หุ้นได้ประโยชน์มาตรการรัฐ-CPALL,BJC,AMATA,WHA,CK,STEC ดอกเบี้ยขาลง- DIF,CRYSTAL,TPRIME,MTC,SAWAD ปันผลสูง- KKP,TISCO,LALIN,SC หุ้น DEFENSIVE- ADVANC,BTS,BEM ได้ประโยชน์ IMO 2020- TOP ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัว รัฐกระตุ้นท่องเที่ยว- AOT,ERW,MINT กลุ่มการแพทย์ 3Q ฤดูกาลดีที่สุดในรอบปี อากาศผันผวนสูง - CHG,RJH,RPHโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกร (ASF)- GFPT
# Stock Pick Today : STEC คงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาพื้นฐาน 22.00 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/BV ที่ 2.7 เท่า ประเมินกำไรปีนี้ลดลง 14.2% y-o-y และกลับไปเติบโตได้ 7% y-oyในปี 63 คาดว่าราคาหุ้นที่ปรับลงมากตั้งแต่ประกาศงบการเงิน 2Q62 ที่ไม่สดใส ได้สะท้อนไปพอควรแล้ว มีงานในมือสูง 93 พันล้านบาท ไปรับรู้รายได้ใน 3 ปีข้างหน้า งานรัฐสภาแห่งใหม่ที่ไม่มีกำไรใกล้เสร็จ มีโอกาสได้งานขนาดใหญ่คือ อู่ตะเภาหลังบริษัทร่วมทุน BBS ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ 20% เสนอราคาต่ำสุด คาดว่างานในมือจะเพิ่มขึ้นถึง 80พันล้านบาท ใกล้ 1 เท่าตัวจากปัจจุบัน รวมทั้งในอนาคตจะมีรายได้ค่าเช่าที่สม่ำเสมอจากโครงการ หมอชิต คอมเพล็กซ์ มูลค่าลงทุน 12.1 พันล้านบาท
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เปลี่ยนเป็นลบ แต่ยังไม่มาก {“ปิดลบเล็กน้อย”เหนือ“SMA10วัน” (แต่ยังถูกกดดันจาก“โครงสร้างขาลง– ระยะกลาง”)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก” (มีSMA10“หนุน”) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน1640 (หรือ 1650) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1625” (แนวรับย่อย “1600 – 1590 / 1580” จุด)}
หุ้นที่มีสัญ ญ าณ ทางเทคนิคทำ New High เข้ามาใหม่คือ KBANK,TOA,CPN,RATCH,COM7,PLS ที่ยังอยู่ใน List คือ BCH,EGCO,JWD,PRM หุ้นหลุด List คือTASCO,TOP,DELTA,EA หุ้นอยู่ในพื้นที่ Take Profit คือ JMT,M,SAWAD
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : CPF (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 33.00)
DTAC (ถือ -ราคาพื้นฐาน 65.00)
Flash Note : GFPT (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 20.10)
TMB (ถือ -ราคาพื้นฐาน 1.83)
New Listing : CPW
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ Brexit: สถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดี
# นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ Brexit หลังจากสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงใหม่โดยทั้งนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนายฌอง-คล้อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ต่างทวีตข้อความยืนยันว่าทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันแล้ว
# จาค็อบ รีส-ม็อกก์ ผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมในสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสันวางแผนที่จะแถลงต่อรัฐสภาในวันเสาร์นี้ ก่อนที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะอภิปรายว่าจะรับรองข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่ที่นายจอห์นสันเห็นชอบร่วมกับสหภาพยุโรป หรือจะออกจาก EU แบบไม่มีข้อตกลง
+ สหรัฐ-ตุรกี: ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงในพื้นที่ตอนเหนือของซีเรีย
# นักลงทุนยังขานรับรายงานข่าวที่ว่า สหรัฐและตุรกีได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงในพื้นที่ตอนเหนือของซีเรียแล้ว และกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตปลอดภัย หรือ เซฟโซน โดยนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยว่า ตุรกีจะหยุดปฏิบัติการทางทหารเป็นเวลา 5 วัน เพื่อเปิดทางให้กลุ่มนักรบชาวเคิร์ดถอนกำลังออกจากเซฟโซน และสหรัฐจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อตุรกีทันทีที่เริ่มมีการหยุดยิง
- สหรัฐ: ตัวเลขเศรษฐกิจโดยรวมชะลอลง
# สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 214,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านร่วงลง 9.4% ในเดือนก.ย. สู่ระดับ 1.256 ล้านยูนิต เมื่อเทียบกับระดับ 1.386 ล้านยูนิตในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2550
# ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐลดลง 0.4% ในเดือนก.ย.ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. หรือในรอบห้าเดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 0.2%
-เจรจาการค้า: อาจมีอุปสรรคจากความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนในประเด็นฮ่องกง
# นักลงทุนวิตกกังวลว่า ความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนในประเด็นฮ่องกงนั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งมีความเปราะบางอยู่แล้วในขณะนี้ หลังมีรายงานว่า จีนต้องการเจรจาเพิ่มเติมกับสหรัฐอย่างเร็วที่สุดในช่วงปลายเดือนต.ค.นี้ เพื่อสรุปรายละเอียดของข้อตกลงการค้าขั้นแรกก่อนที่ผู้นำทั้งสองจะลงนามร่วมกัน
+ ดัชนีหุ้นสหรัฐ: ปรับขึ้น Brexit บรรลุข้อตกลง สหรัฐ-ตุรกีหยุดยิง
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,025.88 จุด เพิ่มขึ้น 23.90 จุด หรือ +0.09% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่2,997.95 จุด เพิ่มขึ้น 8.26 จุด หรือ +0.28% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,156.85 จุด เพิ่มขึ้น 32.67 จุด หรือ +0.40%
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งข่าวที่ว่า อังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) สามารถบรรลุข้อตกลงของอังกฤษในการถอนตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit)นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ หลังจากสหรัฐและตุรกีได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงในพื้นที่ตอนเหนือของซีเรีย
+ น้ำมัน: WTI ปรับขึ้น สต็อกลด Brexit ดีขึ้น
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 53.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 49 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 59.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) หลังจากรายงานระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นของสหรัฐปรับตัวลงมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งการบรรลุข้อตกลง Brexit ระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU)
- ทองคำ: ปรับขึ้น ดอลลาร์อ่อน ตัวเลขเศรษฐกิจอ่อน เข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4.3 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่1,498.3 ดอลลาร์/ออนซ์
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐยังช่วยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
-บริษัทออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์คล้ายทุนมีความเสี่ยงมากขึ้น หลังปี 63 จะใช้มาตรฐานบัญชีฉบับที่ 32
# นายชาญชัย ชัยประสิทธิ์ หัวหน้าสายงานตรวจสอบบัญชี และหุ้นส่วนบริษัท PwC ประเทศไทย กล่าวในงานสัมมนาประจำปี PwC Thailand's Symposium 2019 ภายใต้หัวข้อ"บริหารความท้าทายขององค์กรในทศวรรษใหม่อย่างมืออาชีพ"ว่า การนำมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 32 (TAS 32) ซึ่งเป็นฉบับใหม่มาใช้ในปีหน้า จะส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนไทยขนาดใหญ่ที่ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิคล้ายทุน (Perpetual Bond) จะถูกจัดประเภทใหม่จากตราสารทุนมาเป็นหนี้สินในงบการเงินแทน ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E ratio) เพิ่มขึ้น จนทำให้เกิดความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง และในที่สุดทำให้ต้นทุนทางการเงินสูงตามไปด้วย ปัจจุบัน มีบริษัทจดทะเบียนไทยขนาดใหญ่ 8 แห่งที่ออก Perpetual Bond มูลค่าคงค้างประมาณ 7.7 หมื่นล้านบาท (Aspen)
# ผลกระทบเป็นไปในทางลบ หากบริษัทจัดอันดับเครดิตปรับลดเครดิต ทำให้ต้นทุนการเงินเพิ่มขึ้น แต่ส่วนใหญ่จะกำหนดการไถ่ถอนได้หลังปีที่ 5 เพื่อเปิดโอกาสให้บริษัทลดต้นทุนการเงิน ซึ่งปกติอัตราดอกเบี้ยตราสารประเภทนี้จะสูงเป็นพิเศษ จากการรวบรวมบริษัทที่ออกและมีโอกาสได้รับผลลบคือ IVL,ANAN,PF,MINT,CPALL,CPF,PTTEP,TTCLสำหรับหลักทรัพย์ที่เพิ่งออกคือ BCP และที่อยู่ในช่วง Filing คือ TU และ BGRIM อย่างไรก็ตามหากมูลค่าตราสารนี้มีสัดส่วนน้อยเทียบกับเงินกู้ทั้งหมดก็จะมีผลกระทบน้อย
# เช่น กรณีของ ANAN คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนจะเพิ่มเป็น 1.4 เท่า จากเดิม 0.6 เท่า ก็จะได้รับผลลบมากกว่าPF ที่เพิ่มเป็น 2.1 เท่า จากเดิม 2.0 เท่า เพราะจากเดิมก็สูงอยู่แล้ว เป็นต้น
-/• PTT: ระยะสั้นได้รับผลลบจากธุรกิจโรงกลั่นที่ไม่สดใสจากต้นทุนขนส่งที่เพิ่มขึ้น
# ระยะสั้น อาจจะต้องระวัง PTT เพราะกำไรจากกลุ่มโรงกลั่นเป็นประมาณ 1 ใน 3 ของกำไรทั้งหมด และที่ผ่านมาราคาหุ้นยังปรับลงน้อยกว่าลูกๆ เช่น PTTEP,PTTGC,TOP และ IRPC ขณะที่ราคาน้ำมันทยอยปรับลง จากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก แต่ระยะกลางถึงยาว คาดว่าจะได้รับผลกระทบจำกัด เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องชั่วคราวและPTT มีการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจที่ดี จากการเป็นโฮลดิ้งส์ และมีโครงข่ายบริษัทในกลุ่มที่มีความหลากหลายของธุรกิจสูง
-KTC: ประกาศกำไรสุทธิ 3Q62 ลดต่ำลง y-o-y ไม่ได้ทำการวิเคราะห์ (Not Rated)
# ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/62 บริษัทมีกำไร 1,292 ล้านบาท ลดลงอัตรา 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของพอร์ต อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการจัดหาบัตรใหม่ รวมถึงในการจัดโปรโมชั่นทางการตลาดเพื่อกระตุ้นให้สมาชิกใช้จ่ายผ่านบัตร เป็นผลให้ค่าใช้จ่ายรวมของไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นที่ 10%ขณะที่รายได้รวมเติบโต 4% (MD&A ของบริษัท)
+ กิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อช่วยเศรษฐกิจไทยดำเนินต่อไป
# ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แถลงรายละเอียดโครงการ "ถึงเวลาทัวร์ให้ทั่วไทย" เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และเป็นการเสริมมาตรการชิมช้อปใช้ของรัฐบาลอีกทางหนึ่ง ผ่าน 2 แคมเปญ คือ "เที่ยววันธรรมดาราคาช็อกโลก" และ "ร้อยเดียวเที่ยวทั่วไทย" โดยทั้ง 2 โครงการจะสิ้นสุดพร้อมกันในวันที่ 31 ธ.ค.62 คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการเดินทางและสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวได้ถึง 400 ล้านบาท
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!