หมวดหมู่: บริษัทจดทะเบียน

TOPภทรลดา สงาแสงTOP คาด Q3/60 พลิกกำไรจากสต็อกน้ำมันราว 2 พันลบ.คาดค่าการกลั่นรวมปีนี้อยู่ที่ 8-9 เหรียญ สูงกว่าปีก่อน

    นางสาวภัทรลดา สง่าแสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านการเงินและบัญชี บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน(Opportunity Day) คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 พลิกมีกำไรสุทธิจากการสต็อกน้ำมันราว 2 พันลบ. หลังราคาน้ำมันดิบฟื้นมาอยู่ที่ 50 - 51 เหรียญฯ พร้อมประเมินค่าการกลั่นปีนี้ไม่ต่ำกว่า 6.5 เหรียญ/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 5.2 เหรียญ/บาร์เรล หลังจีนลดการส่งออกน้ำมันทำความต้องการใช้ล้น ยันบาทแข็งไม่กระทบ EBITDA ปีนี้ แย้มแผน-มูลค่าโครงการ CFP ชัดเจนกลางปีหน้า รายละเอียดดังนี้

       บริษัทคาดว่าจะกลับมามีกำไรจากการสต็อกน้ำมัน (Stock Gain)ภายในไตรมาส 3/60 ราว 2 พันล้านบาท หลังจากที่ในช่วงไตรมาส 2/60 บริษัทมีผลขาดทุนจากการสต็อกน้ำมันอยู่ที่ 2,076 ล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวกลับมาอยู่ที่ราว 50 - 51 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และหากราคาน้ำมันดิบในช่วงสิ้นปีเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 52 เหรียญ/บาร์เรล จะทำให้บริษัทไร้ผลขาดทุนจากการสต็อกน้ำมันในปีนี้

      โดยคาดว่าค่าการกลั่น(GRM)ในปีนี้จะทำได้ไม่ต่ำกว่า 6.5 เหรียญ/บาร์เรล สูงกว่าปีก่อนที่ 5.2 เหรียญ/บาร์เรล และมีค่าการกลั่นรวม(GIM)ปีนี้อยู่ที่ 8-9 เหรียญ/บาร์เรล สูงกว่าปีก่อนที่ 7.5 เหรียญ/บาร์เรล เนื่องจากในไตรมาส 3/60 ผู้ผลิตจากประเทศจีนลดการส่งออกน้ำมัน ในขณะที่การเปิดดำเนินการโรงกลั่นแห่งใหม่ลดน้อยลงทำให้ปริมาณน้ำมันดิบไม่เพียงพอต่อความต้องการ นอกจากนี้ คาดว่าในช่วงไตรมาส 4/60 ความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงจะยังมีต่อเนื่องจากกลุ่มประเทศที่กำลังเข้าสู่ฤดูหนาว โดยคาดว่าการบริโภคน้ำมันในปีนี้จะอยู่ที่ 1.52 ล้านบาร์เรล/วัน ในขณะที่มีการผลิตอยู่ที่ 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน

      สำหรับ ปัจจัยทางด้านเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ บริษัทยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อ EBITDA ในปีนี้เนื่องจากบริษัทมีการซื้อวัตถุดิบและซื้อขายน้ำมันดิบด้วยสกุลเงินดอลลาร์ ทำให้เกิดการบริหารความเสี่ยงแบบธรรมชาติ (Natural Hedge) แต่อย่างไรก็ดี คาดว่าจะกระทบต่อรายได้รวมของบริษัทเข้ามาบ้าง

     ด้านโครงการ Clean Fuel ProjectCFP)คาดว่าจะมีความชัดเจนด้านมูลค่าโครงการและผู้รับเหมาก่อสร้างภายในช่วงกลางปี 61 โดยโครงการดังกล่าวจะเน้นการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีแนวโน้มในการใช้เพิ่มขึ้นตามการผลักดันโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(EEC) เช่น น้ำมันเจ็ท (Jet Fuel) และ น้ำมันดีเซล (Diesel) ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตจาก 2.75 แสนบาร์เรลต่อวัน เป็น 4 แสนบาร์เรลต่อวันภายในปี 64

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย 

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!