หมวดหมู่: บริษัทจดทะเบียน

SGP Supachai


กูรูหุ้นเชียร์ 'ซื้อ'SGP วางราคาเป้าหมาย 37 บาท/หุ้นพี/อีแค่ 9 เท่า-ปันผลเกิน 5% ยอดขายแก๊สในปท.เป็นรองแค่ ปตท.ประเมินยอดขายปี 61 โตเกิน 10% หลังบุกตลาดแดนมังกรตอนเหนือ

    เปิดบทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง แนะนำ 'ซื้อ' หุ้น SGP ประเมินราคาเหมะสมที่ 37 บาท ชี้ค่า P/E แค่ 9 เท่า ขณะที่จ่ายปันผลสูงเกิน 5% ต่อปี ระบุยอดขายแก๊สในประเทศเป็นรองแค่ ปตท.เท่านั้น อนาคตมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก ทั้งจากยอดขายในประเทศและการรุกคืบบุกตลาดในประเทศจีนตอนเหนือ ด้านผู้บริหาร “ศุภชัย วีรบวรพงศ์” มั่นใจยอดขายปี 61 โตเกิน 10% หลังขยายตลาดในประเทศจีนตอนเหนือ แย้มไตรมาส 2/61 จ่อบุ๊ครายได้โรงไฟฟ้าพลังงานดีเซลในเมียนมา กำลังการผลิต 10 MW ดันรายได้ทำสถิติสูงสุดใหม่

    บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เผยแพร่บทวิเคราะห์ หุ้น บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP โดยแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเหมาะสมพื้นฐานที่ 37 บาท อิง PE 12 เท่า โดยมีประเด็นที่สำคัญคือ SGP เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเงินปันผลเกิน 5% ต่อปี ปัจจุบันมีค่าพีอีเรโชว์ (P/E) ต่ำเพียง 9 เท่า แถมยังมีศักยภาพในการเติบโตต่อจากนี้ไปได้อีกมาก ทั้งจากยอดขายแก๊สในและต่างประเทศ,การขยายโรงไฟฟ้าในต่างประเทศและความร่วมมือกับ EGATInter, ลุ้นโอกาสนาเข้าแก๊สขายให้กับ EGAT, มี Hidden assetจำนวนมากพร้อมจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯ

    ในบทวิเคราะห์ระบุว่าการขายแก๊สในประเทศ SGP มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2 รองจาก ปตท. ทั้งภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรม นับแต่บริษัทเริ่มนาเข้าแก๊สเองตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่งผลให้มีต้นทุนที่ถูกลง และการบริหารจัดการโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ ปัจจุบันบริษัทฯนำเข้าแก๊สเองราว 50% ของปริมาณขายในประเทศ ซึ่งประมาณการกำไรมี upside risk จากการที่บริษัทฯเพิ่มสัดส่วนการนำเข้าเองเพื่อขยายตลาดในประเทศไปสู่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น

     พร้อมกันนี้ ได้ประเมินว่าปริมาณการใช้แก๊สในจีนจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณจากปีนี้ไป สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลจีนที่ประกาศ ส่งเสริมให้โรงงานอุตสาหกรรมเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาด แก๊สปิโตรเลียม พร้อมทั้งสั่งลดการใช้ ถ่านหินลง คาดยอดขายแก๊สของ SGP ในจีนจะได้อานิสงส์นี้ ช่วยผลักดันยอดขายผนวกกับเศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวแข็งแกร่งมาอย่างต่อเนื่อง และเรายังเห็นโอกาสอีกมาก ในการขยายช่องทางขายแก๊สไปยังจีนตอนเหนือที่ SGP กำลังรุกเพิ่ม ส่วนแบ่งตลาดอยู่ในขณะนี้

     นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมาประเทศบังกลาเทศ จากเดิมใช้ระบบท่อแก๊ส ซึ่งกำลังทรุดโทรม โดยรัฐบาลได้ทยอยยกเลิกระบบเดิม และปล่อยให้ประชาชนหันมาสั่งแก๊สบรรจุถังใช้ในครัวเรือนแทน ทำให้ระบบผูกขาดจากการส่งแก๊สผ่านท่อหมดไป และเปิดช่องให้ผู้ค้าแก๊สอย่าง SGP มีโอกาสในการได้ส่วนแบ่งตลาดจากประเทศนี้เพิ่มขึ้น

        ทั้งนี้ บล.บัวหลวง มองว่า SGP มีศักยภาพในการเติบโตได้ดีกว่าคาดจากการลงทุนในโครงการใหม่ (1) คลังแก๊ส LPG ที่มาเลเซียขนาด 5 พันตัน คาดว่าจะแล้วเสร็จใน 3Q18 ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายในมาเลเซีย ให้ดีขึ้นจากปัจจุบันที่ระดับ 3,000 ตัน/ปี เป็น 10,000 ตัน/ปี (2) การร่วมทุนสร้างคลังแก๊สและท่าเรือที่อินโดนีเซียขนาด 3-5 พันตัน จะหนุนปริมาณขายเพิ่มจากจากปัจจุบันมีการส่งออกแก๊สให้ลูกค้าเพียงอย่างเดียว (3) การ M&A เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในโรงไฟฟ้าขนาด 230 MW ที่พม่า ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯถือหุ้นอยู่ 36.1% โดยโรงไฟฟ้าแห่งนี้ได้จ่ายไฟเข้าระบบแล้ว และยังมีโครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่จะขายไฟโดยตรงให้ชุมชนที่เตรียมพัฒนาเพิ่มขึ้นอีก (4) การเปิดเสรีนาเข้าแก๊สเต็มรูปแบบได้เปิดโอกาสให้ SGP ที่ร่วมกับ EGAT-I มีโอกาสเข้าร่วมประมูลงานนำเข้า LNG เพื่อขายให้ EGAT ใช้ผลิตไฟฟ้า โดยขั้นแรกจะเปิดให้เอกชนเข้าประมูลก่อนที่ 1.5 ล้านตัน

   ด้านนายศุภชัย วีรบวรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) (SGP) กล่าวว่า บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 2561 เติบโตมากกว่า 10% หรือประมาณ 3.5 ล้านตัน เทียบปีที่ผ่านมีรายได้รวมประมาณ 60,000 ล้านบาท จากยอดขายกว่า 3.2 ล้านตัน โดยได้รับปัจจัยบวกยอดขายก๊าซแอลพีจีที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศผลักดันรายได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

      สำหรับ แผนการดำเนินงานในธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ในปี 2561 บริษัทฯเตรียมขยายตลาดเข้าสู่ประเทศจีนตอนเหนือมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก จากปัจจุบันที่เป็นผู้นำตลาดในจีนตอนใต้ โดยเป็นผู้นำเข้า LPG ติดอันดับหนึ่งในสาม ในประเทศจีน และมีคลังเก็บก๊าซใต้ดินขนาดใหญ่สองแห่งในจีน อยู่ที่เมืองซัวเถาและเมืองจูไห่ รวมจำนวน 300,000 ตัน และขยายตลาดใหม่ต่อเนื่อง

     อนึ่ง เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา บริษัทฯและบริษัท กฟผ.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น (MOU) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการเป็นผู้จัดหาและจัดส่งก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas–LNG) เพื่อป้อนให้กับโรงไฟฟ้าในประเทศไทย ตามแผนสำรองพลังงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)

       อนึ่ง เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2561 โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานดีเซลในเมียนมา ซึ่งเป็นโครงการผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายให้กับสหกรณ์หมู่บ้านโดยตรง ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 10 เมกะวัตต์ (MW) ได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ (COD) คาดว่าจะมีรายได้จากการขายไฟเฉลี่ย 340 ล้านบาท/ปี ซึ่งจะบันทึกเป็นรายได้เข้ามาในไตรมาส 2/61

 

Click Donate Support Web   BIT FUN728x90

yobit 560 60

8

f1 728x90 ru

468x60 bit

468x60 DOG

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!