หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 4-6-2020May
กลยุทธ์กาารลงทุน
วันอังคารที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้น ขานรับราคาน้ำมันดิบโลกที่เร่งตัวขึ้น และกิจกรรมทางเศรษฐกิจโลกที่กลับมาฟื้นตัว ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,374.18 (+21.81 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 7.1 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 6.5 หมื่นล้านบาท)  
โดยนักลงทุนต่างชาติ ซื้อหุ้นไทย 2,089 ลบ. (นักลงทุนสถาบันซื้อ 1,049 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Long Futures ที่ 3,176 สัญญา)
KBANK (ราคาเป้าหมาย consensus 112 บาท) Valuation อยู่ในระดับที่ไม่แพง อัตราปันผลสูง และราคาหุ้นยังคง Laggard กลุ่มอื่นค่อนข้างมาก ผสานกับยังอยู่ในภาวะ Underown หนุนโอกาสที่นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศจะเข้าสะสม 
กระแสเงินทุนไหลเข้า เพิ่มจิตวิทยาบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง : จากแนวโน้มค่าเงินสกุลเอเชีย (รวมถึงค่าเงินบาท) ที่แข็งค่า ผสานกับความวุ่นวายในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (DM) คาดส่งผลบวกระยะสั้นต่อประเทศในกลุ่มกำลังพัฒนาในแถบเอเชีย (Asia EM) มีโอกาสขับเคลื่อนกระแสเงินทุนไหลเข้าในระยะสั้น โดย 3 วันทำการที่ผ่านมาพบเม็ดเงินพลิกกลับมาไหลเข้านำโดย อินเดีย +1,962 ล้านเหรียญ, ไต้หวัน +1,104 ล้านเหรียญ, เกาหลีใต้ +179 ล้านเหรียญ, อินโดนีเซีย 165 ล้านเหรียญ, ไทย +110 ล้านเหรียญ และ ฟิลิปปินส์ +21 ล้านเหรียญ โดยเม็ดเงินหลักเข้ามาสะสมหุ้นที่ยังคงมี Valuation ที่ไม่แพง เช่นกลุ่มธนาคาร เป็นต้น คาดแรงหนุนนี้จะเพิ่มโมเมนตัมเชิงบวกต่อการแกว่งขึ้นของ SET เพิ่มเติม ส่วนทางด้านของแนวโน้มของราคาน้ำมันในระยะสั้นยังมีทิศทางผันผวนในทางขึ้น โดยแรงหนุนหลักมาจากในฝั่งของอุปสงค์ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องขานรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งทั่วโลก สอดคล้องกับตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ลดลง -2.07 ล้านบาร์เรลสวนตลาดที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล และดัชนี ISM ของ US ที่ฟื้นตัวทั้งภาคการผลิตและบริการ ในขณะที่ฝั่งอุปทานยังมีความไม่แน่นอนต่อการจัดประชุม OPEC+ ในรอบนี้ว่าจะเลื่อนออกไปหรือไม่ และกลุ่ม OPEC+ จะสามารถขยายระยะเวลาในการลดกำลังการผลิตได้ยาวเพียงใด แต่โดยสรุปเรายังคาดภาพระยะกลางทิศทางราคาน้ำมันดิบโลกยังมีโอกาสฟื้นตัวจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ค่อยดีขึ้นทั่วโลก ดังนั้นกลุ่มพลังงานยังเป็นกลุ่มที่น่าทยอยสะสมเช่นเดิม   
Investment Strategy : วันนี้คาด SET แกว่งขึ้น ในกรอบแนวรับ 1,360 ต้าน 1,390 จุด เน้นหุ้นอิง Fund Flow ระยะสั้น (ธนาคาร, พลังงาน, ไฟฟ้า) โดย ATO Picks วันนี้แนะนำ “KBANK, PTTGC, DOHOME”
ปัจจัยในประเทศ :
ติดตามตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19
5 มิ.ย. CPI ของไทย (พ.ค.)
แนวรับ : 1360/1348
แนวต้าน : 1390/1400
SET Index ทะลุ 1360 จุดขึ้นมา แนวต้านถัดไปที่ 1400 จุด
• SET Index  ปิดที่ระดับ 1374.18 จุด 
(+21.81 จุด)
• ดัชนีสามารถขึ้นมายืนเหนือระดับ 1360 จุด
• ต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อ (เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2563 ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,089.51 ล้านบาท)
• ทิศทางโดยรวมยังเป็นบวก แนวต้านสำคัญถัดไปที่ 1400 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
มีหุ้น : ถือรันเทรน รอทำกำไรที่แนวต้านด่านสำคัญอีกทีที่ 1400 จุด
ไม่มีหุ้น : รอดัชนีอ่อนตัวลงมาใกล้แนวรับ 1360 จุด ค่อยหาจังหวะในการเข้าซื้อ
สมอ.หวั่นเหล็กจีนทะลักเข้าไทย (ข่าวสด)
ความเห็น : ภาวะล้นตลาดเหล็กในจีน และ ในไทย ยังกดดันอุตสาหกรรมเหล็กให้มีกำไรต่ำ  โดยเฉพาะ อุตสาหกรรมเหล็กในจีน มีการใช้ และ ผลิตประมาณ 50% ของโลก  หุ้นกลุ่มเหล็กชั้นนำของโลก รวมถึงไทย ปัจจุบันซื้อขายบน P/BV เฉลี่ยเพียง 0.4 เท่า  แต่ภาวะอุตสาหกรรมยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว เราให้น้ำหนักกลุ่มเหล็กน้อยกว่าตลาด
'บีทีเอส' กำไรพุ่ง 184% เคาะ 'เพิ่มทุน-ปันผล' (กรุงเทพธุรกิจ)
ความเห็น : ผลการดำเนินงานยังคงอยู่ในประมาณการหลักของเรา แต่ทว่ามี downside เล็กน้อยจากความล่าช้าของการเปิดสายสีชมพู-เหลือง ที่เพิ่งได้รับอนุมัติขยายเวลาออกไป ส่วนการลงนามสัญญาโครงการใหม่ๆ (สนามบิน, มอเตอร์เวย์) ยังไม่สามารถนำเข้าประมาณการได้ เนื่องจากยังไม่มีรายละเอียดมากพอ อีกทั้งยังต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปีกว่าจะรับรู้รายได้ ระหว่างนี้เราคงคำแนะนำ “ถือ” 11.30 บาท/ หุ้น 

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!