หมวดหมู่: พาณิชย์

1aaaDพิมพ์ชนก วอนขอพร


พาณิชย์ เผยข้าวไทยเนื้อหอม หลังอินเดีย จีน เวียดนามล็อกดาวน์หนีโควิด-19 คาดออเดอร์วิ่งชนแน่

     พาณิชย์ เผยข้าวไทยเนื้อหอม หลังผู้ผลิตและผู้ส่งออกรายใหญ่ ทั้งอินเดีย จีน เวียดนาม ล็อกดาวน์ประเทศหนีโควิด-19 และจำกัดการส่งออกหรือห้ามส่งออก แนะติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด คาดออเดอร์วิ่งมาหาไทยแน่ ยันปีนี้ไทยผลิตข้าวสารได้ประมาณ 18.80 ล้านตัน มีเพียงพอบริโภคประเทศและเหลือส่งออก

      น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค.ได้ติดตามสถานการณ์การผลิตและการส่งออกข้าวของประเทศต่างๆ ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยพบว่าประเทศผู้ผลิตและส่งออกข้าวรายสำคัญ เช่น อินเดีย จีน และเวียดนาม ต่างหันมาใช้มาตรการปิดประเทศ (Lockdown)และเน้นการผลิตอาหารเพื่อให้เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศตนเองเป็นหลัก ส่งผลให้เกิดการชะลอการส่งออก และอาจทำให้ประเทศใดประเทศหนึ่ง ซึ่งต้องการนำเข้าข้าวหันมาสั่งซื้อข้าวจากไทยเพิ่มมากขึ้น

       “ภาครัฐและเอกชนของไทย จำเป็นต้องติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและคำนึงถึงการบริหารจัดการสต๊อกข้าวสำหรับการบริโภคภายในประเทศและการส่งออกข้าวอย่างเหมาะสมและสมดุล เพราะเชื่อว่าภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สิ้นสุด ประเทศต่างๆ น่าจะมีความต้องการบริโภคข้าวและสินค้าอาหารที่ได้คุณภาพและมีมาตรฐานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็จะเป็นโอกาสทองของไทยในการผลักดันการส่งออกข้าวไทยไปยังทั่วโลก”

        ทั้งนี้ ในส่วนของอินเดีย พบว่า มีการใช้มาตรการปิดประเทศอย่างเด็ดขาด โดยห้ามประชาชนออกจากบ้าน และปิดการขนส่งทุกประเภท สำหรับในส่วนของความมั่นคงทางอาหาร อนุญาตให้อุตสาหกรรมผลิตอาหารดำเนินกิจการต่อไปได้ แต่ปรับลดเวลาทำงานและจำนวนแรงงานลง โดยให้ภาคเอกชนเร่งผลิตข้าว แป้ง และถั่ว เพื่อรองรับการขาดแคลนอาหารที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชากรกว่า 1.3 พันล้านคน ทำให้ประเทศที่พึ่งพาการนำเข้าข้าวจากอินเดียอาจได้รับผลกระทบจากการที่ผลผลิตข้าวในอินเดียไม่เพียงพอในการส่งออกช่วงปีนี้ โดยเฉพาะตลาดข้าวบาสมาติของอินเดีย ไม่ว่าจะเป็นประเทศในแถบภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้แก่ อิหร่าน ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิรัก คูเวต และ เยเมน รวมทั้งสหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ และยังรวมถึงตลาดข้าวที่ไม่ใช่บาสมาติ ได้แก่ ประเทศในภูมิภาคแอฟริกาและประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ไนจีเรีย เบนิน โตโก ไอโวรีโคสต์ ไลบีเรีย เซเนกัล รวมถึงบังกาเทศ ศรีลังกา และเนปาล

       ขณะที่จีน ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนจากเป็นผู้นำเข้าข้าวไทยรายใหญ่กลายเป็นผู้ผลิตและส่งออกข้าวของโลก เนื่องจากจีนมีข้าวในสต๊อกกว่า 115-118 ล้านตัน ซึ่งมีปริมาณมากกว่าผู้ส่งออกและผู้นำเข้าข้าวในโลกรวมกัน ดังนั้น ในช่วงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 รัฐบาลจีนได้ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับประเทศ โดยเร่งเพิ่มกำลังการผลิตข้าว ธัญพืช พืชเกษตร และอาหารอย่างต่อเนื่อง

      ส่วนเวียดนาม รัฐบาลได้เตรียมระงับการส่งออกข้าว และสำรองข้าว 190,000 ตัน เพื่อการบริโภคภายในประเทศ ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจทำให้ประเทศที่นำเข้าข้าวจากเวียดนาม เช่น จีน ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย หันมาสั่งซื้อข้าวจากไทยมากขึ้น

      น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวว่า สำหรับปริมาณการผลิตข้าวไทยในปี 2562/63 มีผลผลิตข้าวเปลือกรวม 28.44 ล้านตัน เป็นข้าวขาว 5% ปริมาณ 11.04 ล้านตัน ข้าวหอมมะลิและข้าวหอมไทย 9.43 ล้านต้น ข้าวเหนียว 6.43 ล้านตัน และข้าวอื่น ๆ 1.58 ล้านตัน เมื่อแปรสภาพเป็นข้าวสาร จะมีปริมาณ 18.80 ล้านตัน และยังมีสต๊อกต้นปี 2563 คงเหลือจากปี 2562 ประมาณ 4.24 ล้านตัน ซึ่งไทยมีการบริโภคในประเทศ 11.70 ล้านตัน คาดว่าจะส่งออก 7.50 ล้านตัน คงเหลือสต๊อกปลายปี 3.79 ล้านตัน โดยไทยถือเป็นประเทศที่มีสต๊อกข้าวปลายปีมากเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากจีนและอินเดีย

    อย่างไรก็ตาม คาดว่า ไทยจะไม่มีปัญหาข้าวขาดแคลน เพราะความต้องการบริโภคอยู่ที่ 50% ของผลผลิตทั้งหมด ส่งออกประมาณ 32% ที่เหลือเป็นสต๊อกคงเหลือในแต่ละปี หากมีความต้องการส่งออกเพิ่มขึ้น ก็ไม่มีผลกระทบต่อปริมาณข้าวบริโภคในประเทศ เพราะการบริโภคในประเทศจะสูงขึ้นบ้าง จากการที่ประชาชนกักตัวอยู่บ้าน แต่ก็ลดลงในส่วนของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทยลดลง ทำให้มีการบริโภคข้าวลดลงตามไปด้วย

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!