Corehoon
: ข่าวด่วน ทันเหตุการณ์ เศรษฐกิจ การลงทุน หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ไอที-เทคโนฯ รถยนต์ ท่องเที่ยว ต่างประเทศ รวดเร็วสดใหม่ทุกวัน 
Investment Strategy
กลยุทธ์ : การขยับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน โดยเฉพาะ เบรนท์ ที่ขึ้นมาแตะ 70 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ ส่วนหนึ่งมาสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงและที่น่าจะเป็นตัวที่ดึงให้ราคาขึ้นไปอีก คือความกังวลว่าทางสหรัฐจะออกมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่ออิหร่าน แม้จะยังไม่รู้ว่าราคาน้ำมันจะสามารถขึ้นทะลุ 70 ดอลลาร์/บาร์เรลแล้วยืนหรือจะเผชิญกับแรงขาย แต่ที่แน่ๆ การขึ้นของราคาน้ำมันใกล้ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล น่าจะเป็นตัวพยุงตลาดหุ้นไทยได้ หากมาดูการดิ่งลงของดัชนีดาวโจนส์มากกว่า 700 จุดเมื่อคืนนี้ ถือว่าเป็นการตอบสนองในเชิงลบกับการตั้งกำแพงภาษีกับจีน แนวโน้มดัชนี SET ในสัปดาห์หน้า หากตลาดหุ้นสหรัฐไม่มีการผันผวนแรงๆ และสามารถรีบาวน์กลับได้ เราเชื่อว่า ตลาดหุ้นไทย จะค่อยๆ ขึ้นไปเล่นเหนือ 1800 จุดอีกครั้ง โดยมีปัจจัยภายใน คือ แนวโน้มการทำปิดงบ ซึ่งหากเกิดขึ้นเรามองว่า หุ้นบางตัวที่อยู่ในข่ายของการทำ น่าจะเป็นหุ้นในกลุ่มหลักที่มีอิทธิพลต่อ SET อย่างกลุ่มธนาคารพาณิชย์พลังงานบางตัว สื่อสาร ค้าปลีก แต่อย่างไรก็ตามหากตลาดหุ้นสหรัฐยังผันผวน มีแนวโน้มที่ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐลงมาสร้างสถิติจุดต่ำสุดใหม่ โดยมีประเด็นที่ต้องติดตาม คิอ ปฎิกริยาของจีนต่อการตั้งกำแพงภาษีจากสหรัฐ วันนี้มองแนวโน้มดัชนี SET คาดจะปรับตัวลงตามดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐและภูมิภาค จากความกังวลเรื่องสงครามการค้า แต่น่าจะไม่ลึกมากสำหรับตลาดหุ้นไทย เนื่องจาก ราคาน้ำมันไม่ได้ปรับตัวลงมาก เราจึงมองว่าหุ้นกลุ่มพลังงานน่าจะช่วยพยุง SET เอาไว้ โดยการลงในวันนี้เป็นโอกาสที่จะได้เข้าทยอยซื้อเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวในหุ้นพลังงานและปิโตรเคมี (Buy om weakness ) อย่าง PTT PTTEP PTTGC IVL โดยวันนี้มองแนวรับที่ 1785-1780 จุดและแนวต้านที่ 1795-1800 จุด
Themes play :
BDMS : เราแนะนำ ซื้อ BDMS โดยมีราคาเป้าหมาย 23.50 บาท จากการที่ BDMS เป็นหุ้นdefensive ที่คาดว่าจะเป็นที่พักเงินในวันนี้ที่ตลาดมีโอกาสปรับตัวลงแรงจากความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน หลังจากเมื่อคืนนี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อเป็นการลงโทษจีนที่ได้ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทสหรัฐ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงแรง 2-3% เราเชื่อว่าการที่ BDMS ปรับกลยุทธ์หันมาเน้นด้านการส่งเสริมสุขภาพ(promotive care) และการป้องกันโรค (preventive care) แทนการรักษาโรค (acute care)เป็นทางเลือกที่ถูกต้อง เนื่องจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยจะเน้นการรักษาโรคที่มีความรุนแรง บวกกับผู้ป่วยชาวตะวันออกกลางไม่ได้เดินทางมาไทยเพื่อการป้องกันโรค เราเชื่อว่าGPM จะฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดมาอยู่ที่ 30.6% ในปี FY17 และน่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีกในปี FY18-20ตามจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น แม้เราจะไม่ได้มองกลุ่มการแพทย์ในเชิงบวกมากนักจากแนวโน้มที่ธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจะเริ่มชะลอตัว บวกกับมีการแข่งขันจากบริการพรีเมียมในโรงพยาบาลรัฐ แต่เรายังคงเลือก BDMS เป็น top pick ของกลุ่มนี้เพราะบริษัทมีกลุ่มเป้าหมายและที่ตั้งกระจายตัวจึงช่วยลดความกังวลจากปัจจัยข้างต้น
Opportunity Day 4Q17
23 มี.ค. : SUPER ANAN LALIN RJH BJC TRC BA
26 มี.ค. : CBG SEAFCO SYNEX PCSGH
27 มี.ค. : PLANB BCH BM SAT PHOL TSR MBK
28 มี.ค. : BCPG THG S AJ ADB DEMCO GPI
29 มี.ค. : MEGA SKE SR TVO NETBAY PDJ SPA
Fundamental Stock :
BBL : Company Note คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย 254 บาท
IVL : Company Note คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย 80 บาท
Technical Pick
กลยุทธ์ : SET Index ในระยะสั้น น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบบริเวณ 1800 จุด โดยมีแนวรับที่ 1790 และ1780 จุดเป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้น เนื่องจากแนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 1840 จุดเป็นเป้าหมายในการปรับตัวเพิ่มขึ้น
KCE Electronics (KCE TB; THB 71.50) – ซื้อ
Delta Electronics (DELTA TB; THB 67.75) – ซื้อ
กลยุทธ์ : การขยับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน โดยเฉพาะ เบรนท์ ที่ขึ้นมาแตะ 70 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ ส่วนหนึ่งมาสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงและที่น่าจะเป็นตัวที่ดึงให้ราคาขึ้นไปอีก คือความกังวลว่าทางสหรัฐจะออกมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่ออิหร่าน แม้จะยังไม่รู้ว่าราคาน้ำมันจะสามารถขึ้นทะลุ 70 ดอลลาร์/บาร์เรลแล้วยืนหรือจะเผชิญกับแรงขาย แต่ที่แน่ๆ การขึ้นของราคาน้ำมันใกล้ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล น่าจะเป็นตัวพยุงตลาดหุ้นไทยได้ หากมาดูการดิ่งลงของดัชนีดาวโจนส์มากกว่า 700 จุดเมื่อคืนนี้ ถือว่าเป็นการตอบสนองในเชิงลบกับการตั้งกำแพงภาษีกับจีน แนวโน้มดัชนี SET ในสัปดาห์หน้า หากตลาดหุ้นสหรัฐไม่มีการผันผวนแรงๆ และสามารถรีบาวน์กลับได้ เราเชื่อว่า ตลาดหุ้นไทย จะค่อยๆ ขึ้นไปเล่นเหนือ 1800 จุดอีกครั้ง โดยมีปัจจัยภายใน คือ แนวโน้มการทำปิดงบ ซึ่งหากเกิดขึ้นเรามองว่า หุ้นบางตัวที่อยู่ในข่ายของการทำ น่าจะเป็นหุ้นในกลุ่มหลักที่มีอิทธิพลต่อ SET อย่างกลุ่มธนาคารพาณิชย์พลังงานบางตัว สื่อสาร ค้าปลีก แต่อย่างไรก็ตามหากตลาดหุ้นสหรัฐยังผันผวน มีแนวโน้มที่ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐลงมาสร้างสถิติจุดต่ำสุดใหม่ โดยมีประเด็นที่ต้องติดตาม คิอ ปฎิกริยาของจีนต่อการตั้งกำแพงภาษีจากสหรัฐ วันนี้มองแนวโน้มดัชนี SET คาดจะปรับตัวลงตามดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐและภูมิภาค จากความกังวลเรื่องสงครามการค้า แต่น่าจะไม่ลึกมากสำหรับตลาดหุ้นไทย เนื่องจาก ราคาน้ำมันไม่ได้ปรับตัวลงมาก เราจึงมองว่าหุ้นกลุ่มพลังงานน่าจะช่วยพยุง SET เอาไว้ โดยการลงในวันนี้เป็นโอกาสที่จะได้เข้าทยอยซื้อเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวในหุ้นพลังงานและปิโตรเคมี (Buy om weakness ) อย่าง PTT PTTEP PTTGC IVL โดยวันนี้มองแนวรับที่ 1785-1780 จุดและแนวต้านที่ 1795-1800 จุด
Themes play :
BDMS : เราแนะนำ ซื้อ BDMS โดยมีราคาเป้าหมาย 23.50 บาท จากการที่ BDMS เป็นหุ้นdefensive ที่คาดว่าจะเป็นที่พักเงินในวันนี้ที่ตลาดมีโอกาสปรับตัวลงแรงจากความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน หลังจากเมื่อคืนนี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อเป็นการลงโทษจีนที่ได้ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทสหรัฐ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงแรง 2-3% เราเชื่อว่าการที่ BDMS ปรับกลยุทธ์หันมาเน้นด้านการส่งเสริมสุขภาพ(promotive care) และการป้องกันโรค (preventive care) แทนการรักษาโรค (acute care)เป็นทางเลือกที่ถูกต้อง เนื่องจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยจะเน้นการรักษาโรคที่มีความรุนแรง บวกกับผู้ป่วยชาวตะวันออกกลางไม่ได้เดินทางมาไทยเพื่อการป้องกันโรค เราเชื่อว่าGPM จะฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดมาอยู่ที่ 30.6% ในปี FY17 และน่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีกในปี FY18-20ตามจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น แม้เราจะไม่ได้มองกลุ่มการแพทย์ในเชิงบวกมากนักจากแนวโน้มที่ธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจะเริ่มชะลอตัว บวกกับมีการแข่งขันจากบริการพรีเมียมในโรงพยาบาลรัฐ แต่เรายังคงเลือก BDMS เป็น top pick ของกลุ่มนี้เพราะบริษัทมีกลุ่มเป้าหมายและที่ตั้งกระจายตัวจึงช่วยลดความกังวลจากปัจจัยข้างต้น
Opportunity Day 4Q17
23 มี.ค. : SUPER ANAN LALIN RJH BJC TRC BA
26 มี.ค. : CBG SEAFCO SYNEX PCSGH
27 มี.ค. : PLANB BCH BM SAT PHOL TSR MBK
28 มี.ค. : BCPG THG S AJ ADB DEMCO GPI
29 มี.ค. : MEGA SKE SR TVO NETBAY PDJ SPA
Fundamental Stock :
BBL : Company Note คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย 254 บาท
IVL : Company Note คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย 80 บาท
Technical Pick
กลยุทธ์ : SET Index ในระยะสั้น น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบบริเวณ 1800 จุด โดยมีแนวรับที่ 1790 และ1780 จุดเป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้น เนื่องจากแนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 1840 จุดเป็นเป้าหมายในการปรับตัวเพิ่มขึ้น
KCE Electronics (KCE TB; THB 71.50) – ซื้อ
Delta Electronics (DELTA TB; THB 67.75) – ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 - This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
Uraiwan Tantisuwannakul +66(2) 761 9256 - This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO6918
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 - This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
Uraiwan Tantisuwannakul +66(2) 761 9256 - This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO6918
