หมวดหมู่: พาณิชย์

1aaaวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม1


พาณิชย์ เคาะจ่ายส่วนต่างประกันรายได้ข้าว งวดที่ 11 ได้ครบทั้ง 5 ชนิดเหมือนเดิม

      พาณิชย์ เคาะจ่ายส่วนต่างประกันรายได้ข้าว งวดที่ 11 ได้รับชดเชยครบทั้ง 5 ชนิดเหมือนเดิม หลังราคายังต่ำกว่าเพดานประกัน เผยข้าวเปลือกหอมมะลิ ได้รับชดเชยสูงสุด ตามด้วยข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ แต่จ่ายลดลงทุกชนิด หลังราคาปรับตัวสูงขึ้น

       นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เปิดเผยว่า วันที่ 18 ม.ค.2563 ได้อนุมัติราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2563/64 รอบที่ 1 งวดที่ 11 โดยมีมติจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2563/64 ที่ระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 11-17 ม.ค.2564 จำนวน 5 ชนิด คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี และข้าวเปลือกเหนียว ซึ่งเป็นการจ่ายชดเชย 11 งวดติดต่อกัน เพราะทุกชนิดยังมีราคาต่ำกว่าราคาที่ประกันรายได้

     โดยผลการพิจารณาราคาตลาดปัจจุบันกับราคาที่ประกันรายได้ พบว่า ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิอยู่ที่ตันละ 12,611.19 บาท มีส่วนต่างที่ต้องจ่ายตันละ 2,388.81 บาท , ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 12,011.66 บาท มีส่วนต่างตันละ 1,988.34 บาท , ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 9,519.73 บาท มีส่วนต่างตันละ 480.27 บาท , ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 10,883.82 บาท มีส่วนต่างตันละ 116.18 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 11,562.86 บาท มีส่วนต่างตันละ 437.14 บาท

     ทั้งนี้ เกษตรกรจะได้รับเงินส่วนต่างสำหรับงวดที่ 11 ดังนี้ ข้าวเปลือกหอมมะลิ 33,443.34 บาท , ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 31,813.44 บาท , ข้าวเปลือกเจ้า 14,408.10 บาท , ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 2,904.50 บาท และข้าวเปลือกเหนียว 6,994.24 บาท

     สำหรับ โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้ประกันราคาข้าวเปลือก 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ไม่เกิน 25 ตัน ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ไม่เกิน 16 ตัน

     อย่างไรก็ตาม ราคาข้าวทุกชนิดปรับตัวดีขึ้น เพราะผลผลิตข้าวออกสู่ตลาดใกล้จะหมดแล้ว และยังได้รับผลดีจากมาตรการเสริมเพื่อชะลอผลผลิตข้าวเข้าสู่ตลาด ทั้งโครงการโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ให้ค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาท เป้าหมาย 1.5 ล้านตัน โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร สหกรณ์เสียดอกเบี้ยร้อยละ 1 เป้าหมาย 1.5 ล้านตัน และโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก ชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการร้อยละ 3 เป้าหมาย 4 ล้านตัน

     นายวัฒนศักย์ กล่าวว่า การจ่ายเงินชดเชยสำหรับเกษตรกรที่ยังมีบางรายไม่ได้รับเงิน เพราะธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กำลังตรวจสอบการแจ้งขึ้นทะเบียน เพราะมีแปลงซ้ำ ชื่อซ้ำ รวมทั้งต้องตรวจสอบชนิดข้าวที่ปลูก พื้นที่เพาะปลูก โดยเกษตรกรที่เคยแจ้งไว้ตามโครงการปีที่ 1 ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา ส่วนเกษตรกรที่แจ้งเพาะปลูกข้าว 2 ชนิด ธ.ก.ส. ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยจะดูว่าข้าวชนิดไหน เกษตรกรได้ประโยชน์สูงสุด และเมื่อจ่ายแล้ว หากยังไม่เต็มโควตาที่จะได้รับ ก็จะพิจารณาจ่ายในส่วนของข้าวชนิดที่ 2 ต่อไป

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

FBS728

EXNESS

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!