หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 15-1-2021May
กลยุทธ์การลงทุนรายวัน / 15 มกราคม 2564
SET 
ดัชนี ตลาดหลักทรัพย์ 
1,535.98      -11.33 
สรุปมูลค่าการซื้อขาย 14 ม.ค. 64
นักลงทุน         สุทธิ 
สถาบัน       -3,872.24
บัญชี บล.       -181.38 
ต่างชาติ           830.98
ในประเทศ     3,222.64 
MARKET SUMMARY
วานนี้ SET ย่อตัว รับแรงกดดันจากการปรับตัวลงของหุ้น Free Float ต่ำ เช่น DELTA โดย SET ปิดที่ 1,535.98 (-11.33 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 9.7 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 1.07 แสนล้านบาท) โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 831 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 3,872 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 7,167 สัญญา)
STOCK PICK & TRADING IDEA 
TOP (เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 64 บาท) แนวโน้มค่าการกลั่นในช่วง 1Q64 มีทิศทางที่ดีขึ้น และปริมาณการขายเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับภาพเศรษฐกิจโลกที่กำลังฟื้นตัว อีกทั้งส่วนต่างปิโตรเคมีในสาย Aromatics ในระยะสั้นที่ปรับตัวขึ้นเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติม
INVESTMENT THEM
ไบเดนแถลงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านเหรียญ : วานนี้ โจ ไบเดน ได้เปิดเผยแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่วงเงิน 1.9 ล้านล้านเหรียญ (American Rescue Plan) โดยจะเข้าฟื้นฟูเศรษฐกิจในหลายจุด เช่น การเพิ่มเช็คเงินช่วยเหลือคนละ 2,000 เหรียญ (เพิ่มขึ้นอีก 600 เหรียญ), สิทธิประโยชน์สำหรับคนว่างงานรายสัปดาห์ 400 เหรียญ จนถึงเดือนกันยายน, เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำจาก 7.25 เหรียญ เป็น 15 เหรียญต่อชั่วโมง เป็นต้น แต่อย่างไรก็ดีตลาดหุ้นสหรัฐฯไม่ได้ตอบรับเชิงบวก โดยคาดว่ามาจากแผนรวมดังกล่าวน้อยกว่าที่เคยพูดไว้เล็กน้อย จึงเห็นเป็นภาพของการ Sell on fact อย่างไรก็ดีคาดภาพระยะกลางยังมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากแผนการเยียวยานี้คาดจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ค่อยๆฟื้นตัวได้ในช่วงถัดไป ซึ่งสอดคล้องกับปัจจัยในประเทศที่รอนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่นำเข้าสู่ ครม. ในวันอังคารหน้า จะเข้ามาเยียวยาผลกระทบที่เกิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 หนุนภาพเศรษฐกิจไทยระยะกลาง ดังนั้นภาพตลาดระยะสั้นอาจจะชะลอความร้อนแรงบ้าง แต่เชื่อว่าภาพกลาง-ยาว ยังดีต่อ
Investment Strategy : วันนี้คาด SET แกว่ง sideways แนวรับ 1,515 จุด และแนวต้าน 1,550 จุด เน้นหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ATO Picks วันนี้แนะนำ “TOP, COM7, SCC”
Siam Cement (SCC)
กำไร 4Q63 จะยังเด่น เข้าสู่เฟสการเติบโต
BUY 
Share Price                   THB 390.00
12m Price Target         THB 430.00 (+10%)
Previous Price Target THB 430.00 
Results Preview 
ประเด็นการลงทุน 
คาด 4Q63 จะมีกำไรปกติอยู่ในเกณฑ์ดี 9,000ล้านบาท (-8%QoQ, +27%YoY) แม้ว่าโรงงานปิโตรฯ MOC ปิดซ่อมบำรุงถึง 45วัน แต่ได้แรงหนุนสำคัญจากสเปรดปิโตรเคมีที่พุ่งสูงขึ้น  แนวโน้มผลประกอบการของ SCC ในอนาคต 3-5 ปีข้างหน้าจะเข้าสู่เฟสของการเติบโต แรงหนุนจากทั้งสามธุรกิจ คือ ธุรกิจปิโตรเคมี กำลังการผลิตจะเพิ่ม 70% เน้น HVA และ นวัตกรรม ธุรกิจปูนซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เน้นเซอร์วิส และ โซลูชั่น ไปรีเทล  ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ครบวงจร ตั้งเป้าจะโตเป็น 2 เท่าใน 5 ปีข้างหน้า  คาดปันผลกำไรครึ่งปีหลัง 9.5 บาท รวมจ่าย 15 บาท มีอัตราปันผลตอบแทน 3.7% คงแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 430 บาท บนฐาน Forward P/E+0.5SD = 13.9 เท่า 
คาดกำไรปกติ 4Q63 จะยังอยู่ในเกณฑ์ดี 9,000ล้านบาท (ไม่รวมรายการพิเศษ)
ไตรมาส 4Q63 มีการปิดซ่อมบำรุงโรงงานปิโตรเคมี MOC เป็นเวลา 45 วัน ซึ่งจะทำให้ปริมาณขาย Polyolefin หายไปร่วม 100,000 ตัน  จากปกติ 450,000-470,000 ตัน  ในขณะที่สเปรดปิโตรเคมี 4Q63 ได้เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากไตรมาสก่อน คือ HDPE–Naphtha เพิ่มขึ้น $80/ตัน  PP–Naphtha เพิ่มขึ้น $169/ตัน และ PVC spread เพิ่มขึ้น $125/ตัน แรงหนุนจากการฟื้นตัวได้ดีของตลาดจีน และ เอเชีย ทำให้กำไรธุรกิจปิโตรเคมีจะไม่ลดลงมากนัก  ส่วนปูนซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง แม้ความต้องการปูนซีเมนต์จะติดลบประมาณ 7-9% แต่คาดกำไรมีแนวโน้มจะประคองตัวได้ดีต่อเนื่อง จากการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน ขายสินค้าพร้อมบริการบวกด้วยโซลูชั่น  ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ครบวงจร มีแนวโน้มจะประคองตัว แม้ว่าบริษัทย่อยในต่างประเทศจะถูกกระทบจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 และ ต้นทุนเศษกระดาษนำเข้าที่สูงขึ้น  รวมแล้วเราคาด4Q63จะมีกำไรปกติอยู่ในเกณฑ์ดี 9,000 ล้านบาท (-8%QoQ, +27%YoY) ซึ่งไม่รวมรายการพิเศษที่อาจจะมีการตั้งสำรองสินทรัพย์ด้อยค่า    
แนวโน้มปี 2564 จะเติบโตต่อ 
แนวโน้มธุรกิจรวมในปีนี้จะดีขึ้นทั้งสามธุรกิจ คือ 1.) ธุรกิจปิโตรเคมี ความต้องการเติบโตดีขึ้น ในขณะที่กำลังการผลิตใหม่ของโลกเข้ามาน้อยลง ทำให้สเปรดยังอยู่ในเกณฑ์ดี  และ ยังเสริมด้วยกำลังการผลิตที่เพิ่ม  2.) ธุรกิจปูนซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง แม้ความต้องการจะไม่เติบโต แต่จะเน้น การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตลดต้นทุน มีการขายสินค้าพร้อมบริการบวกด้วยโซลูซั่น  เน้นลูกค้ารีเทล  และ ตลาดบูรณะปรับปรุงซ่อมแซมก็เป็นตลาดที่มีการเติบโตดี  และ  3.) บรรจุภัณฑ์ครบวงจร จะเติบโตเด่นสุด จากการขยายกำลังการผลิต  และ/หรือการควบรวมกิจการ 
คาดจ่ายปันผลกำไรครึ่งปีหลัง 9.50 บาท 
SCC จ่ายเงินปันผลกำไรครึ่งปีแรก 5.5 บาท  เราคาดครึ่งปีหลังจะจ่ายมากขึ้นอีก 9.5 บาท รวมเป็นปันผลจ่าย 15 บาท คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน 3.7%  จากสถานการณ์การแพร่ระบาด Covid-19 ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจมากนัก
Surachai Pramualcharoenkit
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
(66) 2658 6300 ext 1470
Sri Trang Gloves (Thailand) (STGT)
ผู้ถือหุ้นได้ผลตอบแทนเพิ่มดังที่คาดไว้
BUY 
Share Price           THB 37.00
12m Price Target      THB 48.25 (+30%)
Previous Price Target THB 96.50
Company Update 
ปรับปรุงราคาเหมาะสมจากการแตกพาร์ และ ปรับคาดการณ์ปันผลขึ้น
เราได้ทำการปรับปรุงราคาเหมาะสมจาก 96.50 เป็น 48.25 ให้สอดคล้องกับมติผู้ถือหุ้นในการแตกพาร์จาก 1.00 บาท เป็น 0.50 บาท/ หุ้น นอกจากนั้น เราปรับปรุงประมาณการปันผลเพิ่มขึ้น หลังบริษัทปรับเปลี่ยนนโยบายปันผลที่สูงขึ้นให้แก่ผู้ถือหุ้น สะท้อนความมั่นใจในทิศทางแข็งแกร่งของกำไรในปี 2564-65 ของผู้บริหาร เหล่านี้ส่งผลให้ผลตอบแทนเงินปันผลในปี 2564 คาดจะอยู่ที่ 11.9% น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ชื่นชอบเงินปันผล และสม่ำเสมอ เราคงคำแนะนำ “ซื้อ”
บริษัทส่งสัญญาณถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในอนาคต
ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อ 25 ธ.ค. 2563 นอกจากจะมีการอนุมัติเข้าซื้อหุ้น บจก.พรีเมียร์ซิสเต็มเอ็นจิเนียริ่ง และ บจก.สะเดา พี.เอส.รับเบอร์ และ ซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจาก บจก.อันวาร์พาราวูด ซึ่งทั้งหมดเป็นบริษัทในเครือของบริษัทแม่ STA เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมในเรื่องการพัฒนาและขยายกำลังการผลิตแล้ว ที่ประชุมก็ได้มีการอนุมัติเอกฉันท์ ในการแตกพาร์จาก 1.00 บาท เป็น 0.50 บาท และในวันเดียวกันนั้น คณะกรรมการก็มีมติปรับเปลี่ยนนโยบายปันผลเป็น “ไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ” จากก่อนหน้าที่ 30% และยังได้กำหนดแนวทางการจ่ายปันผลระหว่างกาล 3 ครั้ง ในปี 2564 อีกด้วย (มิ.ย., ก.ย. และ ธ.ค. 2564) ซึ่งแนวทางนี้เป็นการสะท้อน ถึงทิศทางกำไรที่แข็งแกร่งในปี 2564 จากคำสั่งจองซื้อที่เต็มกำลังการผลิตไปแล้ว และการกำหนดราคาขายในระดับสูงตามแผน ทำให้กระแสเงินสดจึงมากเพียงพอสำหรับการให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นที่สูงขึ้น เป็นไปตามมุมมองของเรา (อ่าน บทวิเคราะห์ 2 ต.ค. 2563 “ผู้ถือหุ้นอาจได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าคาด”
คำแนะนำการลงทุน
เราปรับปรุงคาดการณ์ปันผลขึ้น 66% เป็น 4.39 บาท/ หุ้น (บนพาร์ใหม่ 0.50 บาท) คิดเป็น Dividend Yield ปี 2564 ที่ 11.9% ซึ่งเมื่อรวมถึงแผนการจ่ายปันผลถึง 3 ครั้งในปี 2564 ทำให้ STGT จึงได้กลายเป็นหุ้นปันผลตามที่มองไว้ เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมหลังปรับราคาพาร์แล้วที่ 48.25 บาท/ หุ้น อิง P/E21F กรอบล่างของกลุ่มผู้ผลิตยางในมาเลเซียที่ 5.5 เท่าเพื่อความอนุรักษ์นิยม
ความเสี่ยง
การเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อาจทำให้ความต้องการถุงมือยางช้าลง กล่าวคือ ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเร่งรีบในการซื้อหา ดังนั้น สมมติฐานราคาถุงมือยางเฉลี่ยอาจจะลดลงได้อย่างรวดเร็วได้ แม้ว่าในแง่ปริมาณการใช้จะยังคงมีอยู่ในระดับสูงก็ตาม โดยเราให้สมมติฐานว่าราคาถุงมือยางจะลดลง 30% ในปี 2566 ในทางตรงกันข้ามหากโรคระบาดรุนแรงและลากยาวกว่าคาด ก็จะเป็น upside risk ต่อประมาณการในปี 2566 ได้เช่นกัน
Jaroonpan Wattanawong
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
(66) 2658 6300 ext 1404

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!