หมวดหมู่: อสังหาริมทรัพย์ฯ

7606 JLL


การลงทุนซื้อขายโรงแรมเอเชียแปซิฟิกครึ่งปีแรกมูลค่ารวม 3.7 พันล้านดอลลาร์

ทั่วภูมิภาคมีการซื้อขายเกิดขึ้น 61 รายการ มูลค่าการซื้อขายลดลง 3.7% จากครึ่งแรกปี 63

          ครึ่งแรกของปีนี้ มีการลงทุนซื้อขายโรงแรมในเอเชียแปซิฟิกเกิดขึ้นรวมทั้งสิ้น 61 รายการ คิดเป็นห้องพักรวมกว่าหมื่นห้อง อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจากมูลค่า พบว่า การซื้อขายทั้งหมดมีรวมมูลค่ารวม 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 3.7% จากครึ่งแรกของปี 2563 ตามการรายงานจากบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล

          การรวบรวมข้อมูลและประเมินผลโดยเจแอลแอล เผยให้เห็นว่า เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ซึ่งเป็นปีที่มีการซื้อขายโรงแรมรวมมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเอเชียแปซิฟิก ปริมาณการลงทุนซื้อขายโรงแรมในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ มีมูลค่าลดลง 18% อย่างไรก็ดี การที่มีรายการซื้อขายโรงแรมรายการใหญ่ๆ เกิดขึ้นหลายรายการ สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดการลงทุนซื้อขายโรงแรมของภมิภาคนี้ยังคงสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน แม้การดำเนินธุรกิจโรงแรมจะยังคงติดขัดและรับผลกระทบต่อเนื่องจากมาตรการคุมเข้มการเดินทาง

          นายไมค์ แบทเชเลอร์ ซีอีโอหน่วยธุรกิจบริการการลงทุนด้านโรงแรมภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก เจแอลแอล กล่าวว่าความมั่นใจต่อการฟื้นตัวของภาคธุรกิจโรงแรมในเอเชียแปซิฟิกยังคงมีอยู่สูง โดยนักลงทุนมองที่ศักยภาพระยะยาว การลงทุนซื้อขายโรงแรมยังคงเกิดขึ้นแม้จะมีมาตรการล็อคดาวน์และควบคุมการเดินทาง แสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังคงสนใจในตลาดการซื้อขายโรงแรมอยู่ต่อเนื่องตลอดช่วงวิกฤติการณ์โรคระบาด

          รายงานจากเจแอลแอล เปิดเผยว่า หากมองเฉพาะที่เอเชีย (ไม่นับรวมออสเตรเลียและนิวซีแลนด์) การลงทุนซื้อขายโรงแรมในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีมูลค่ารวม 3.53 พันล้านดอลลาร์ มีสัดส่วนคิดเป็น 94% ของมูลค่าทั้งหมดของเอเชียแปซิฟิก ทั้งนี้ จีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีการลงทุนซื้อขายเกิดขึ้นมากที่สูงสุด โดยมีมูลค่ารวมกันคิดเป็น 86% ของภูมิภาค

          จีนเป็นตลาดโรงแรมที่มีการซื้อขายมูลค่าสูงสุดในภูมิภาคที่ 1.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 54% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แซงหน้าโตเกียว ซึ่งเดิมเป็นตลาดที่มีการลงทุนซื้อขายโรงแรมมูลค่าสูงสุด โดยในครึ่งปีแรก โตเกียวมีการซื้อขายมูลค่ารวม 1.1 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 47% อย่างไรก็ดี คาดว่าการซื้อขายจะมีมูลค่าปรับเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง เนื่องจากมีซื้อขายโรงแรมหลายรายการที่กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการหรืออยู่ในแผนที่จะเกิดขึ้น

          นายนิฮาท เอร์แคน กรรมการผู้จัดการอาวุโสด้านการขาย หน่วยธุรกิจบริการการลงทุนด้านโรงแรม ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก เจแอลแอล กล่าวว่าจากที่เราสัมผัสมา เป็นที่ชัดเจนว่า ราคาที่ผู้ซื้อและผู้ขายคาดหวังยังคงมีช่องว่าง แต่โดยส่วนใหญ่ เจ้าของโรงแรมในภูมิภาคนี้ ยังไม่อยู่ภายใต้แรงกดดันสูงจนถึงกับต้องยอมขายลดราคาลงมาก เนื่องจากไม่ได้มีหนี้สูง อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับสถาบันการเงิน/เจ้าหนี้ และในบางกรณียังได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการรัฐฯ ด้วย

          การวิเคราะห์ของเจแอลแอลเผยให้เห็นว่า นักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ซื้อรายหลักในตลาดโรงแรมของออสเตรเลียและญี่ปุ่น ในขณะที่ในจีนและเกาหลี ผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนภายในประเทศ

          นอกจากนี้ เมืองที่เป็นตลาดรีสอร์ทกลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนอีกครั้ง เนื่องจากเป็นที่คาดหมายว่าจะฟื้นตัวได้เร็วกว่าตลาดโรงแรมทั่วไป จากการมีความต้องการสะสมของผู้คนที่ไม่สามารถออกเดินทางท่องเที่ยวมาเป็นเวลานาน ทั้งนี้ มัลดิฟส์ ภูเก็ต เกาะสมุย และบาหลี คาดว่าจะเป็นตลาดรีสอร์ทที่มีการซื้อขายโรงแรม-รีสอร์ทเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยเฉพาะมัลดิฟส์มีแนวโน้มว่าจะเป็นตลาดรีสอร์ทที่มีการซื้อขายคึกคักมากที่สุดในปีนี้

          แม้นักลงทุนจะยังกังวลเกี่ยวกับปัจจัยลบต่างๆ ในระยะสั้นที่ภาคธุรกิจโรงแรมของเอเชียแปซิฟิกกำลังเผชิญ อาทิ การกระจายวัคซีนที่ล่าช้า  และผลกระทบจากการเกิดการระบาดระลอกใหม่ แต่เจแอลแอลประเมินว่า การลงทุนซื้อขายโรงแรมในภูมิภาคสำหรับทั้งปีนี้จะมีมูลค่าปรับตัวเพิ่มขึ้น

          “เราคาดว่า การฟื้นตัวของวงจรธุรกิจจะมีความชัดเจนขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ขับเคลื่อนให้การลงทุนในตลาดโรงแรมทั่วภูมิภาคดำเนินต่อไป ทั้งนี้ การมีรายการซื้อขายโรงแรมสำคัญๆ หลายรายการที่คาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นในออสเตรเลีย ไทย ญี่ปุ่น และจีน จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มูลค่าการลงทุนซื้อขายโดยรวมของภูมิภาคปรับเพิ่มสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เรายังเชื่อด้วยว่า ยอดมูลค่าการลงทุนซื้อขายโดยรวมของทั้งปี น่าจะสอดคล้องกับตัวเลขที่ 7 พันล้านดอลลาร์ ที่เราประมาณการณ์ไว้ ช่วงต้นปี ซึ่งจะสูงกว่าปี 2563 ราว 20%” นายเออร์แคนกล่าว

          นายจักรกริช จักรพันธุ์ อยุธยา รองกรรมการผู้จัดการ หน่วยธุรกิจบริการการลงทุนด้านโรงแรม ภาคพื้นเอเชีย เจแอลแอล กล่าวว่าตลาดโรงแรมของไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ภูเก็ต และสมุย ยังคงได้รับความสนใจสูงจากนักลงทุนในภูมิภาค โดยจากข้อมูลการลงทุนซื้อขายที่เรารวบรวม ในครึ่งแรกของปีนี้ มีการซื้อขายโรงแรมเกิดขึ้น 2 รายการ และจะมีการซื้อขายอีกอย่างน้อย 5 รายการที่มีกำหนดจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในครึ่งหลังของปีนี้

 

A7606

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

FBS728

BITKUB Ad

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!