หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน 5-8-2020KGI
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
บวกต่อได้ แต่ไม่ไกล
มุมมอง SET Index วันพุธ: ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินดัชนีฯ ปรับขึ้นต่อ แต่ทางขึ้นวันนี้คงไม่ไกล... หลังเมื่อวานตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ (ตามคาด) หนุนโดยตัวเลข PMIs / ISM ภาคการผลิต เดือน ก.ค. ของประเทศหลักๆ ที่ฟื้นตัวแรงกว่า consensus ประเมิน + แรงเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวของไทยเพิ่มเติม... ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมเป็นบวก หนุนจิตวิทยาการลงทุนต่อ
ปัจจัยต่างประเทศ - เป็นบวกเล็กน้อย: i) ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสแถลงร่วมกันว่า มีความคืบหน้าในการเจรจารายละเอียดมาตรการช่วยเหลือประชาชนสหรัฐฯ รอบที่ 2 มูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านเหรียญฯ แม้ว่ายังต้องมีการต่อรองกันเพิ่มเติม (เรามองว่าภายในสัปดาห์หน้า จะจบได้) ii) โดนัลด์ ทรัมป์ แถลงยืนยันว่าสหรัฐฯ จะไม่ทำการปิดเมือง ปิดเศรษฐกิจ แม้ว่า COVID-19 ระบาดรุนแรง เนื่องจากผลเสียจากการปิดเมืองมีมากกว่าผลดีต่อการควบคุมโรค... ประเด็นดังกล่าวข้างต้น ผนวกกับตัวเลขคำสั่งซื้อภาคโรงงาน มิ.ย. ที่ออกมาสูงกว่า consensus คาด หนุนราคาน้ำมันดิบรีบาวด์ 1.8% เมื่อคืนนี้
ปัจจัยภายในประเทศ - เป็นบวกเล็กน้อย: i) เมื่อวานนี้ ที่ประชุม ครม. อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่าประมาณ 900 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและท้องถิ่น มูลค่า 4 แสนล้านบาท ทางเรายังคงมุมมองว่าเม็ดเงินของโครงการดังกล่าวจะค่อยๆ เข้าสู่ระบบ (อย่างช้าๆ) ในครึ่งหลังของปีนี้และในปี 2564
ปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ (3-7 ส.ค.): i) ผลการประชุม กนง. ซึ่งจะออกมาในบ่ายวันนี้ ซึ่ง consensus คาดว่า กนง. จะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% และ ii) ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในภาคแรงงาน ได้แก่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (ในวันที่ 6 ส.ค.) และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (ในวันที่ 7 ส.ค.)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร SPRC*, BCPG*, SCCC
SPRC* (เป้าพื้นฐาน 10 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.9 บาท / แนวต้าน 7.15 บาท หาก Breakout ผ่านได้ประเมินทดสอบแนวต้านถัดไป 7.5 บาท (Stop loss 6.6 บาท) 2) ประเมินกำไร 2Q63 = 1.2 พันล้านบาท Turnaround YoY, QoQ 3) ราคา Laggard ESSO* ที่เราแนะนำไปก่อนหน้า ... สำหรับการเก็งกำไรระยะสั้น อาจใช้กลยุทธ์ Pair trade ระหว่าง Long SPRC* / Short ESSO* 4) PBV ต่ำเพียง 1.13 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 1.4 เท่า
BCPG* (เป้าพื้นฐาน 21.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 15.3 บาท / แนวต้าน 16.1 บาท หาก Breakout ผ่านได้ประเมินทดสอบแนวต้านถัดไป 17.0 บาท (Stop loss 15 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินผลการดำเนินงาน 2Q63 จะเป็นจุดต่ำสุด (ขาดทุนค่าเงินบาท+ภัยแล้งกระทบโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ) และจะฟื้นตัวเด่นใน 3Q63 (น้ำเริ่มเข้าเขื่อนตามฤดูกาล ... ซึ่งหุ้น CKP* ปรับขึ้นจากประเด็นนี้ไปแล้ว) 3) คาดเตรียมประกาศโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ที่ลาวภายใน 2H63 รอเพียงปลดล็อกให้สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้ (คาดจะเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลม ?600MW และ/หรือ โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ)
SCCC (เป้าพื้นฐาน 209 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 148 บาท / แนวต้าน 155 - 159 บาท (Stop loss 140 บาท) 2) ประเมิน Earnings momentum จะเริ่มเป็นขาขึ้นใน 2H63 (3Q63 คาดกำไรทรงๆ แม้ปลดล็อคดาวน์แต่เป็น Low season / 4Q63 กำไรจะเป็นจุดสูงสุดของปี) เนื่องจาก i) บริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้ดี หลังปิดโรงงานไป 1 แห่ง (ตัดค่าเสื่อมไปหมดแล้ว) ii) ดีมานด์ปูนซีเมนต์คาดจะเริ่มฟื้นตัว จากการลงทุนโครงการภาครัฐฯที่จะเร่งเดินหน้าต่อ iii) ราคาถ่านหินที่เป็นต้นทุนหลักในกระบวนการผลิตลดลงต่อเนื่อง ล่าสุดลดลง -24% YTD (อ่านแนวโน้มและสมมติฐานราคาถ่านหินเพิ่มเติมได้ในบทวิเคราะห์ BANPU* วานนี้)
หุ้นมีข่าว
(+) ปลดล็อกนักธุรกิจต่างชาติ WHA*-CENTEL* รับอานิสงส์สัญญาณดี (ทันหุ้น) นายกฯ หารือผ่อนคลายนักธุรกิจเข้าไทย สัปดาห์หน้าสรุป ถึงเวลาให้เม็ดเงินต่างชาติดันเศรษฐกิจ หนุน WHA*, CENTEL* ขณะที่ตลาดหุ้นเฮ! รัฐหันกู้เงินต่างประเทศแทนการออกพันธบัตร ส่งผลสภาพคล่องยังล้น แนะนักลงทุนเลือกหุ้น Height-Growth ชี้เป้า CHAYO, SUN, และ PTG* ส่วนหุ้นมูลค่าดี ILINK, PRM ติดโผ
(-) ลิสซิ่งป่วน รื้อใหญ่ค่าทวงหนี้ (ฐานเศรษฐกิจ) ธปท.เคาะโทรคิด 100 บาทลงพื้นที่ 500 บาท สมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทยยื่นข้อเสนอเพิ่มเติม หลังถกค่าธรรมเนียมทวงหนี้ร่วมธปท.-สศค.ไม่ลงตัว เหตุธปท.เคาะค่าทวงหนี้ 100 บาท ค่าลงพื้นที่ 500 บาท อ้างราคาไม่สมเหตุสมผลกับหนี้รถยนต์ หวั่นจ้างเอาต์ซอร์สยาก คนหนีหนี้มากขึ้น
(+) ALT ผนึก RATCH* ปั้น SIC รุกตลาดใยแก้วนำแสง (ทันหุ้น) ALT ผนึกกำลัง RATCH* ตั้งบริษัทย่อย SIC ลุยธุรกิจโครงข่ายสายใยแก้วนำแสง พร้อมรับรู้กำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้ SIC จำนวน 269 ล้านบาท เป็นทุนหมุนเวียน ส่วนธุรกิจหลักยังเดินหน้าตามแผน มีลูกค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนแผนโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) ในพัทยาคืบหน้ากว่า 50% มั่นใจผลงานมีประสิทธิภาพ หนุนโอกาสรับงาน PEA ต่อ
(+) IVL* ซื้อกิจการในโปแลนด์ ขยายธุรกิจรีไซเคิล PET (ทันหุ้น) IVL* เดินหน้าเข้าซื้อกิจการ IMP Polowat โรงงานรีไซเคิล PET ในประเทศโปแลนด์ มีกำลังการผลิตเกล็ดพลาสติกรีไซเคิล (rPET Flakes) รวม 23,000 ตันต่อปี และเม็ดพลาสติกรีไซเคิล (rPET Pellets) รวม 4,000 ตันต่อปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสที่ 3/2563
(+) BJCHI ส่งมอบงานใหญ่ โครงการ LINDE สำเร็จ จ่อประมูล 1.6 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น) BJCHI ส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่ของโครงการ LINDE ให้กับลูกค้าได้ตรงตามกำหนด พร้อมเดินหน้าประมูลโครงการใหม่มูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท มั่นใจหนุนผลงานปีนี้โตก้าวกระโดด โชว์ตุนแบ็กล็อก 4.2 พันล้านบาท
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
หุ้นที่แนะนำ "Let profit run" โดยกำหนดจุดล็อกกำไร Trailing stop: RS* (Trailing stop 17.9 บาท), JMART (Trailing stop 13.5 บาท)
CPF* (เป้าพื้นฐาน 38 บาท) แนวรับ 33 บาท / แนวต้าน 35 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 32 บาท)
ILINK (เป้า Consensus 6.25 บาท) แนวรับ 4.50 บาท / แนวต้าน 5.0 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 4.3 บาท)
ESSO* (เป้าพื้นฐาน 9.5 บาท) แนวรับ 8.0 บาท / แนวต้าน 8.25 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 7.6 บาท)
PTG* (เป้า Consensus 20.12 บาท) แนวรับ 19.3 บาท / แนวต้าน 20.2 - 20.5 บาท (Stop loss 18.3 บาท)
EA* (เป้า Consensus 52.38 บาท) แนวรับ 48 บาท / แนวต้าน 52 - 54 บาท (Stop loss 46 บาท)
GULF* (เป้าพื้นฐาน 38.25 บาท) แนวรับ 33.5 บาท / แนวต้าน 35 - 36 บาท (Stop loss 30 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
AAV* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 2.08 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดจะรายงานผลขาดทุนใน 2Q63 = 2.64 พันล้านบาท และประเมินประมาณการฯทั้งปียังมี Downside risk ที่จะต้องปรับลง (มีโอกาสขาดทุนมากขึ้นกว่าคาด) จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในต่างประเทศยังไม่ดีขึ้น อย่างไรก็ดีคาดจะเห็นการฟื้นตัวได้อย่างช้าๆใน 2H63 จึงคงคำแนะนำ "ถือ"
LPN* แนะนำ "ขาย" เป้าพื้นฐาน 4.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 2Q63 = 120 ล้านบาท (-32% YoY, -45% QoQ) ในเชิงพื้นฐานฝ่ายวิจัยฯคงคำแนะนำ "ขาย" เนื่องจากธุรกิจที่เน้นไปที่โครงการคอนโดฯราคาระดับ กลาง-ล่าง ที่คาดจะ Underperform ในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน
PSH* แนะนำ "ขาย" เป้าพื้นฐาน 11.6 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 2Q63 = 390 ล้านบาท (-58% YoY, -58% QoQ) ในเชิงพื้นฐานฝ่ายวิจัยฯ คงคำแนะนำ "ขาย" เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่ที่เน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลาง - ล่าง ที่คาดจะ Underperform ในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!