หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง :  บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 20-1-2021May
20 มกราคม 2564  / กลยุทธ์การลงทุนรายวัน
SET
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 
1,522.59   +12.46
สรุปมูลค่าการซื้อขาย 
นักลงทุน               สุทธิ 
สถาบัน              1,399.89
บัญชี บล.           1,079.91
ต่างชาติ               -524.63
ในประเทศ        -1,955.17 
MARKET SUMMARY 
วานนี้ SET ฟื้นตัวตามตลาดภูมิภาคจากความหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงถัดไป โดย SET ปิดที่ 1,522.59 (+12.46 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 8.8 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 7.4 หมื่นล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 524 ลบ. (นักลงทุนสถาบันซื้อ 1,399 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 1,481 สัญญา)
STOCK PICKS & TRADING IDEA 
TKN (เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 13 บาท) คาดปี 64 แนวโน้มยอดขายฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ต้นทุนสาหร่ายปรับตัวลง ผสานกับการทยอยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น ชานมไต้หวัน คาดจะเป็นการหนุนยอดขายเร่งตัวขึ้นในช่วงถัดไป
INVESTMENT THEME
เยลเลนหนุนเร่งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ : ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังคงยืนเหนือระดับแนวรับสำคัญ 1500 จุด ท่ามกลางความคาดหวังต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากทั้งในประเทศ ที่วานนี้ ครม. เห็นชอบโครงการ “เราชนะ” อนุมัติแจกเงินให้ประชาชน 3,500 บาท นาน 2 เดือน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยจะแจกให้กับประชาชน 31.1 ล้านคน วงเงินที่ใช้ 2.1 แสนล้านบาท แต่มีเงื่อนไข คือ ไม่สามารถเบิกเป็นเงินสดได้ (ต้องใช้ผ่าน E-wallet) ซึ่งจุดนี้อาจทำให้ประชาชนผิดหวังเล็กน้อย ส่วนด้านปัจจัยต่างประเทศ วานนี้นางเจนเนต เยลเลน ว่าที่รัฐมนตรีคลังคนใหม่ของสหรัฐฯ ซึ่งได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินของวุฒิสภาฯ โดยได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ที่นำเสนอโดยนายโจ ไบเดน อย่างเร่งด่วน พร้อมกับเรียกร้องให้สมาชิกสภาคองเกรสผลักดันให้มีการออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐฯ หนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯฟื้นตัว ส่วนวันนี้แนะจับตาการเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีของนายโจ ไบเดน  
Investment Strategy : วันนี้คาด SET ฟื้นตัว แนวรับ 1,510 จุด และแนวต้าน 1,535 จุด เน้นหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว โดย ATO Picks วันนี้แนะนำ “TKN, AEONTS, KBANK”
Bumrungrad Hospital (BH TB)
หุ้น Vaccine play ที่ดีที่สุด
BUY
Share Price      THB 124.00
12m Price Target THB 150.00 (+21%) 
ฟื้นตัวเร็วสุดจากรายได้ผู้ป่วยต่างชาติสูงสุด
เราโอนย้ายงานวิจัยหุ้น BH ให้คุณยุวนีย์ พรหมาภรณ์เป็นผู้ดูแล เราเชื่อว่า BH เป็นหุ้น vaccine play ที่ดีที่สุดในกลุ่มโรงพยาบาลของไทย โดย 66% ของรายได้ปกติมาจากผู้ป่วยต่างชาติ ซึ่งสูงที่สุดในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่เราศึกษา ทั้งนี้ ผู้ป่วยต่างชาติหายไปในปี 2563 แต่คาดจะกลับมาในปี 2564 โดยคาดว่าวัคซีนจะพร้อมใช้งานในเดือน ก.ค. 64 และหวังว่าสถานการณ์การระบาดของโควิดน่าจะควบคุมได้ และการเดินทางจะกลับสู่ภาวะปกติ เราประเมินกำไรหลักถึงจุดต่ำสุดที่ 1.37 พันล้านบาทในปี 2563 และน่าจะดีดตัวขึ้นเป็น 2.4 พันล้านบาทในปี 2564 และ 3.5 พันล้านบาทในปี 2565 ซึ่งเป็นระดับใกล้เคียงกับ 3.7 พันล้านบาทก่อนโควิดในปี 2562
อัตรากำไร EBITDA จะฟื้นตัวตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป
นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับอัตรากำไร EBITDA ของ BH ซึ่งลดลงอย่างรวดเร็วในปี 63 เหลือ 22.6% จาก 31.9% ในปี 62 เราเชื่อว่ากำไรที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปี 64 จะช่วยให้อัตรากำไร EBITDA ดีขึ้นเนื่องจากอุตสาหกรรมโรงพยาบาลมีต้นทุนคงที่และ operating leverage สูง เราคาดการณ์รายได้ในปี 2564 จะเติบโต 27% YoY เป็น 1.62 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะนำไปสู่การฟื้นตัวของอัตรากำไร EBITDA เป็น 27.8% ในปี 2564 และกลับสู่ภาวะปกติที่ 32.1% ในปี 2565
BDMS ถอนตัว ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ BH
ในไตรมาส 63 BDMS ขายหุ้น 22.71% ใน BH (ที่ราคา 103 บาท / หุ้น) และผู้ถือหุ้นใหม่คือคุณสาธิต วิทยากร ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ PRINC (ไม่มีคำแนะนำ) PRINC เป็นบริษัทบริหารจัดการโรงพยาบาลและเป็นพันธมิตรที่ส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลต่างจังหวัดไปยัง BH สำหรับโรคร้ายแรง BDMS เคยเป็นนักลงทุนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการบริหารจัดการใน BH และการถอนหุ้นอออกไม่ควรส่งผลกระทบใด ๆ ต่อการดำเนินงานของ BH สำหรับ PRINC นั้นหวังที่จะเสริมสร้างความร่วมมือกับ BH อย่างไรก็ตามในขั้นตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าจะประสบความสำเร็จเพียงใด
หุ้นซื้อขายที่ P / E ปี 65 ที่ 28.6 เท่า
เราประเมินราคาเป้าหมายโดยใช้วิธี DCF (WACC 6.31% เติบโต 2%) อิงปี 2564 เป็นปีฐาน BH เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในประเทศไทย BH ได้รับผลกระทบระยะสั้นจากโควิด แต่การเติบโตในระยะยาวไม่ได้รับผลกระทบ และเราเชื่อว่าปัจจัยพื้นฐานยังคงแข็งแกร่งดี ความเสี่ยงหลักคือ ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบโดยเฉพาะการควบคุมราคา 
Yuwanee Prommaporn
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
(66) 2658 5000 ext 1393
KrungThai Card (KTC TB)
Premium valuation ลดน้ำหนักเป็น SELL
SELL
Share Price                   THB 77.00
12m Price Target         THB 46.00 (-40%) 
Previous Price Target THB 41.00 
ฟื้นตัวเร็วสุดจากรายได้ผู้ป่วยต่างชาติสูงสุด
เราโอนย้ายงานวิจัยหุ้น BH ให้คุณยุวนีย์ พรหมาภรณ์เป็นผู้ดูแล เราเชื่อว่า BH เป็นหุ้น vaccine play ที่ดีที่สุดในกลุ่มโรงพยาบาลของไทย โดย 66% ของรายได้ปกติมาจากผู้ป่วยต่างชาติ ซึ่งสูงที่สุดในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่เราศึกษา ทั้งนี้ ผู้ป่วยต่างชาติหายไปในปี 2563 แต่คาดจะกลับมาในปี 2564 โดยคาดว่าวัคซีนจะพร้อมใช้งานในเดือน ก.ค. 64 และหวังว่าสถานการณ์การระบาดของโควิดน่าจะควบคุมได้ และการเดินทางจะกลับสู่ภาวะปกติ เราประเมินกำไรหลักถึงจุดต่ำสุดที่ 1.37 พันล้านบาทในปี 2563 และน่าจะดีดตัวขึ้นเป็น 2.4 พันล้านบาทในปี 2564 และ 3.5 พันล้านบาทในปี 2565 ซึ่งเป็นระดับใกล้เคียงกับ 3.7 พันล้านบาทก่อนโควิดในปี 2562
อัตรากำไร EBITDA จะฟื้นตัวตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป
นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับอัตรากำไร EBITDA ของ BH ซึ่งลดลงอย่างรวดเร็วในปี 63 เหลือ 22.6% จาก 31.9% ในปี 62 เราเชื่อว่ากำไรที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปี 64 จะช่วยให้อัตรากำไร EBITDA ดีขึ้นเนื่องจากอุตสาหกรรมโรงพยาบาลมีต้นทุนคงที่และ operating leverage สูง เราคาดการณ์รายได้ในปี 2564 จะเติบโต 27% YoY เป็น 1.62 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะนำไปสู่การฟื้นตัวของอัตรากำไร EBITDA เป็น 27.8% ในปี 2564 และกลับสู่ภาวะปกติที่ 32.1% ในปี 2565
BDMS ถอนตัว ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ BH
ในไตรมาส 63 BDMS ขายหุ้น 22.71% ใน BH (ที่ราคา 103 บาท / หุ้น) และผู้ถือหุ้นใหม่คือคุณสาธิต วิทยากร ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ PRINC (ไม่มีคำแนะนำ) PRINC เป็นบริษัทบริหารจัดการโรงพยาบาลและเป็นพันธมิตรที่ส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลต่างจังหวัดไปยัง BH สำหรับโรคร้ายแรง BDMS เคยเป็นนักลงทุนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการบริหารจัดการใน BH และการถอนหุ้นอออกไม่ควรส่งผลกระทบใด ๆ ต่อการดำเนินงานของ BH สำหรับ PRINC นั้นหวังที่จะเสริมสร้างความร่วมมือกับ BH อย่างไรก็ตามในขั้นตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าจะประสบความสำเร็จเพียงใด
หุ้นซื้อขายที่ P / E ปี 65 ที่ 28.6 เท่า
เราประเมินราคาเป้าหมายโดยใช้วิธี DCF (WACC 6.31% เติบโต 2%) อิงปี 2564 เป็นปีฐาน BH เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในประเทศไทย BH ได้รับผลกระทบระยะสั้นจากโควิด แต่การเติบโตในระยะยาวไม่ได้รับผลกระทบ และเราเชื่อว่าปัจจัยพื้นฐานยังคงแข็งแกร่งดี ความเสี่ยงหลักคือ ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบโดยเฉพาะการควบคุมราคา 
Yuwanee Prommaporn
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
(66) 2658 5000 ext 1393
Tata Steel (Thailand) (TSTH)
3Q63/64 กำไรน่าผิดหวัง สวนหุ้นที่ปรับขึ้น 
SELL
Share Price     THB 0.69
12m Price Target THB 0.55 (-20%)
Previous Price Target THB 0.55 
Results Review
ผลประกอบการ 3Q63/64
TSTH ประกาศผลประกอบการ 3Q63/64 มีกำไรเล็กน้อย 37 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 72%QoQ แต่ดีขึ้นจากปีก่อนที่ขาดทุน 63 ล้านบาท  นับว่าน่าผิดหวัง ท่ามกลางราคาเหล็กในตลาดโลกที่ปรับขึ้นในเดือน พ.ย.- ธ.ค. แต่ราคาขายเฉลี่ยของ TSTH เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 16,505 บาท/ตัน (+5%QoQ, +5%YoY)  ส่วนต้นทุนเศษเหล็กกลับเพิ่มขึ้นแรงกว่า  ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือเพียง 3.9% จาก 5.7% ในไตรมาสก่อน แต่ดีขึ้นจากปีก่อน 2.2%  ในขณะที่ปริมาณขายมีการเติบโต 328,000 ตัน (+5%QoQ, +15%YoY)  รวมแล้วมูลค่ายอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 5,414 ล้านบาท (+11%QoQ, +21%YoY)
แนวโน้มผลประกอบการ 
ราคาเหล็กเส้นในจีนในเดือน ม.ค. 2564 เข้าสู่ช่วงของการปรับฐาน หลังจากที่เดือน พ.ย.-ธ.ค. 2563 ปรับขึ้นแรง 11%-17% จากเดือน ก.ย. 2563 (ดู Figure 4)  คาดจะกดดันราคาเหล็กในประเทศ  ในขณะที่ TSTH จะรับภาระต้นทุนเศษเหล็กใหม่ที่ปรับตัวสูงขึ้น  จะทำให้ผลประกอบการไตรมาส 4Q63/64 (ม.ค.-มี.ค. 2564) ไม่สดใส  การแพร่ระบาดของ Covid-19 ระลอกใหม่ในปัจจุบันจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และ การลงทุนในประเทศ กดดันความต้องการเหล็ก  และ อุตสาหกรรมเหล็กในประเทศยังประสบปัญหาจากอุปทานที่ล้นตลาด  เราคงประมาณการ ประเมินกำไรปีนี้ (เม.ย. 2563 – มี.ค. 2564) จะมีกำไร 255 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 433%YoY ซึ่งกำไร 9 เดือนแรกคิดเป็น 88% ของประมาณการทั้งปี  
คำแนะนำการลงทุน 
ราคาหุ้นTSTHปัจจุบันซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น 1.1บาท  ภาวะตกต่ำของอุตสาหกรรมเหล็กของโลก ทำให้หุ้นกลุ่มเหล็กชั้นนำของโลกซื้อขาย P/BV ค่า Median ที่ยังต่ำ 0.57 เท่า  แม้ว่าในช่วงเดือน ธ.ค. 2563 จะดีดกลับขึ้นมาแรงเฉลี่ยแล้ว 45% จากช่วงไตรมาส 3Q63  เพื่อให้สอดคล้องกับอุตสาหกรรมเหล็กของโลกเราประเมินราคาเป้าหมาย อิงกับ ค่าเฉลี่ย 10 ปี Forward P/BV – 2SD = 0.53x จะได้ราคาเป้าหมายเท่ากับ 0.55 บาท  ราคาหุ้นปัจจุบันปรับขึ้นร่วม 100% จากปลาย 3Q63 และ ซื้อขายสูงกว่ากว่าราคาเป้าหมาย เราลดเกรดคำแนะนำเป็น ขาย จากเดิม ถือ 
ความเสี่ยง 
ราคาเหล็กผันผวน, อุตสาหกรรมเหล็กยังล้นตลาด, ความต้องการอ่อนแอ
Surachai Pramualcharoenkit
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
(66) 2658 6300 ext 1470

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!