หมวดหมู่: บริษัทจดทะเบียน

TRIS7 26


ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 'บ. ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ' ที่ 'A' และเปลี่ยนแนวโน้ม เป็น 'Negative'  

      ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ 'A' แต่เปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทเป็น 'Negative' หรือ 'ลบ' จาก 'Stable' หรือ 'คงที่'โดยแนวโน้มอันดับเครดิต 'Negative' หรือ 'ลบ'สะท้อนถึงความเป็นไปได้สูงที่ภาระหนี้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นอย่างมากจากโอกาสในการลงทุนในสัญญาสัมปทานใหม่ของรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยการลงทุนนี้อาจจะส่งผลให้สถานะเครดิตของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญจนไม่สอดคล้องกับอันดับเครดิตปัจจุบันของบริษัท

       อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทจากการเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการระบบขนส่งมวลชนเพียง 2 รายในประเทศไทย ตลอดจนการมีกระแสเงินสดที่เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอและคาดการณ์ได้จากการให้บริการเดินรถไฟฟ้า และการมีสถานะที่มั่นคงในธุรกิจสื่อโฆษณา อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนลงบางส่วนจากแผนการลงทุนขนาดใหญ่ซึ่งอาจทำให้ภาระหนี้ของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมาก

       บริษัทเป็นหน่วยธุรกิจหลักและเป็นผู้สร้างรายได้และกำไรที่สำคัญของ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) สถานะเครดิตของบริษัทสะท้อนถึงสถานะเครดิตของบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ 'A' ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต 'Negative' หรือ 'ลบ'จากทริสเรทติ้ง

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

รายได้จากการให้บริการเดินรถไฟฟ้าที่คาดการณ์ได้และเพิ่มมากขึ้น

       ทริสเรทติ้ง คาดว่ารายได้และกระแสเงินสดจากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าของบริษัทจะเพิ่มขึ้นอย่างมากจากการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวทั้ง 2 โดยรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้ได้เริ่มให้บริการในช่วงปลายปี 2561 ในขณะที่ส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือจะเปิดให้บริการตลอดเส้นทางในปี 2563 รายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสามารถคาดการณ์ได้ในระดับสูงเนื่องจากมีการกำหนดอัตราค่าบริการแบบตายตัวไว้แล้วและยังถือว่าเป็นรายได้ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงอีกด้วย ในการนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6.5 พันล้านบาทในปีบัญชี 2565 จากประมาณ 2.3 พันล้านบาทในปีบัญชี 2562

จะต้องมีการลงทุนจำนวนมากหากโครงการใหม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาล

            บริษัทได้มีการทำสัญญาให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้ากับกรุงเทพมหานครจำนวน 2 สัญญาเพื่อให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวและส่วนต่อขยาย อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานครมีความตั้งใจที่จะปรับโครงสร้างสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าไปเป็นสัญญาสัมปทานใหม่และบริษัทก็มีความตั้งใจที่จะลงทุนในสัญญาสัมปทานใหม่ดังกล่าวด้วย โดยบริษัทได้มีการตกลงเงื่อนไขและข้อกำหนดกับกรุงเทพมหานครแล้วและอยู่ในระหว่างรอความเห็นชอบจากรัฐบาลซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในปีนี้ ทั้งนี้ บริษัทจะต้องจัดหาแหล่งเงินทุนจำนวนมากเพื่อใช้ในการลงทุนในสัญญาสัมปทานใหม่ของรถไฟฟ้าสายสีเขียว

รายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณาลดลงแต่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น

       ทริสเรทติ้ง คาดว่ารายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณาของบริษัทจะลดลงอย่างมากถึงประมาณ 55% ในปีบัญชี 2564 จากปีบัญชีก่อนหน้าเนื่องจากไม่ได้รวมงบการเงินของ บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) เข้ามาด้วยและจากความต้องการโฆษณาที่ลดลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณาจะฟื้นตัวประมาณ 30% ในปีบัญชี 2565 โดยคาดว่าอุตสาหกรรมโฆษณาจะค่อย ๆ ฟื้นตัวเมื่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สามารถควบคุมได้ในวงกว้างในช่วงสิ้นครึ่งแรกของปี 2563 นอกจากนี้ การเปิดให้บริการเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายสายสีเขียวก็คาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ของธุรกิจสื่อโฆษณาในขบวนรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทจะได้รับสิทธิในการบริหารพื้นที่โฆษณาและพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสถานีใหม่ๆ ของโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายสายสีเขียว

    บริษัทดำเนินธุรกิจสื่อโฆษณาผ่านบริษัทย่อยคือ บริษัท วี จี ไอ จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีความได้เปรียบในการแข่งขันสูงเนื่องจากเป็นผู้ให้บริการสื่อโฆษณาในขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอสและพื้นที่เชิงพาณิชย์ในบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเพียงรายเดียว นอกจากนี้ บริษัทดังกล่าวยังขยายธุรกิจไปสู่สื่อโฆษณานอกบ้านในรูปแบบอื่นๆ ผ่านการซื้อหุ้นในหลาย ๆ กิจการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสื่อโฆษณาอีกด้วย โดยในปี 2563 บริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 26.58% ในบริษัท มาสเตอร์ แอด 23% ใน บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด และ 18.86% ใน บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) การลงทุนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มฐานรายได้และยังผสานประโยชน์ทั้งในด้านการจัดจำหน่ายร่วมกันและการรวมฐานข้อมูลของผู้บริโภค อีกทั้งบริษัท วี จี ไอ ยังเสนอบริการโฆษณาสื่อออนไลน์ให้แก่ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคโดยการใช้ข้อมูลที่บริษัทได้รวบรวมไว้เป็นจำนวนมากได้อีกด้วย

ภาระหนี้มีโอกาศสที่จะเพิ่มสูงขึ้น

      ภาระหนี้ของบริษ้ทมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในกรณีที่มีการเปลี่ยนสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าไปเป็นสัญญาสัมปทานใหม่ของรถไฟฟ้าสายสีเขียวตามที่ได้กล่าวไว้แล้วข้างต้น เนื่องจากสัญญาสัมปทานใหม่ยังคงรอความเห็นชอบจากรัฐบาลและยังไม่มีความชัดเจนว่าบริษัทจะจัดหาเงินทุนจากแหล่งใดเพื่อใช้ในการลงทุน ดังนั้น สมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้งจึงไม่ได้รวมผลกระทบจากโอกาสในการลงทุนใหม่นี้ ในช่วง 9 เดือนแรกของปีบัญชี 2563 อัตราส่วนเงินกู้สุทธิต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทปรับลดลงมาอยู่ที่ 2.6 เท่า (ปรับเป็นอัตราส่วนเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) จาก 3.2 เท่าในปีบัญชี 2562 ซึ่งเป็นผลมาจากกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ

       ภายใต้สมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนเงินกู้สุทธิต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่ปรับปรุงแล้วจะลดลงอย่างมากจนต่ำกว่า 1 เท่าในปีบัญชี 2565 โดยอัตราส่วนที่ลดลงดังกล่าวจะมาจากกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นและจากการที่กรุงเทพมหานครจะชำระค่างานจัดหาและติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลสำหรับโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้และส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีการลงทุนสัญญาสัมปทานใหม่ของรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานะทางการเงินของบริษัทมีแนวโน้มที่จะอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญหากบริษัทใช้เงินกู้สำหรับการลงทุนใหม่นี้เป็นหลัก

สถานะสภาพคล่องอยู่ในระดับที่ยอมรับได้

       ทริสเรทติ้งประเมินว่าบริษัทจะมีสภาพคล่องที่เพียงพอในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดย ณ เดือนธันวาคม 2562 บริษัทมีเงินสดในมือจำนวน 2.7 พันล้านบาทและมีหลักทรัพย์เพื่อค้าและหลักทรัพย์เผื่อขายจำนวน 650 ล้านบาท บริษัทยังมีวงเงินสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ อีกประมาณ 1.52 หมื่นล้านบาทด้วย สภาพคล่องของบริษัทมีเพียงพอต่อความต้องการใช้เงินทุนในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยบริษัทมีภาระในการชำระหนี้ในช่วง 12 เดือนข้างหน้าประมาณ 78 ล้านบาท มีภาระหนี้ระยะสั้นจำนวน 995 ล้านบาท และมีแผนการใช้เงินลงทุนจำนวนประมาณ 7.3 พันล้านบาท

      ในช่วง 9 เดือนแรกของปีบัญชี 2563 บริษัทมีเงินทุนจากการดำเนินงานจำนวน 4 พันล้านบาท โดยอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงิน (ปรับเป็นอัตราส่วนเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) อยู่ที่ระดับ 27.5% และอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายอยู่ที่ระดับ 7.5 เท่า

      ในข้อกำหนดทางการเงินของหุ้นกู้ระบุให้บริษัทต้องดำรงอัตราส่วนภาระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นไม่เกิน 2.5 เท่า ทั้งนี้ ณ เดือนธันวาคม 2562 อัตราส่วนภาระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทอยู่ที่ -0.58 เท่า ทริสเรทติ้งเชื่อว่าบริษัทจะยังคงสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดทางการเงินของหุ้นกู้ในระยะ 12-18 เดือนได้

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

ในระยะ 3 ปีข้างหน้าระหว่างปีบัญชี 2563-2565 ทริสเรทติ้งมีสมมติฐานดังต่อไปนี้

  • รายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6.5 พันล้านบาทในปีบัญชี 2565 จากประมาณ 2.3 พันล้านบาทในปีบัญชี 2562
  • รายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณาจะลดลง 55% ในปีบัญชี 2564 และจะเพิ่มขึ้น 30% ในปีบัญชี 2565
  • อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ของบริษัทจะอยู่ระหว่าง 40%-60%
  • งบลงทุนรวมทั้งหมดของบริษัทจะอยู่ที่ราว ๆ 1.6 หมื่นล้านบาทในช่วง 3 ปีข้างหน้า

แนวโน้มอันดับเครดิต

      แนวโน้มอันดับเครดิต 'Negative' หรือ 'ลบ' สะท้อนถึงความเป็นไปได้ในระดับสูงที่ภาระหนี้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นอย่างมากจากโอกาสในการลงทุนในรถไฟฟ้าสายสีเขียวโครงการใหม่ซึ่งอาจส่งผลให้สถานะเครดิตของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมากจนอยู่ในระดับที่ไม่สอดคล้องกับอันดับเครดิตในปัจจุบันของบริษัท

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

      เนื่องจากบริษัทเป็นบริษัทย่อยที่สำคัญของบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ อันดับเครดิตของบริษัทจึงสะท้อนถึงอันดับเครดิตของบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ตาม 'วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจแบบกลุ่ม' (Group Rating Methodology) ของทริสเรทติ้ง ดังนั้น หากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในอันดับเครดิตของบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ก็จะส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของบริษัทด้วยเช่นกัน

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562

- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561

- Group Rating Methodology, 10 กรกฎาคม 2558

อันดับเครดิตองค์กร: A

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

BTSG20DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A

BTSG22DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A

BTSG27DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 A

BTSG29DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2572 A

BTSG209A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,550 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A

BTSG239A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,290 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A

BTSG289A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,660 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 A

BTSG245A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A

BTSG265A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A

BTSG295A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2572 A

BTSG215A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A

BTSG225A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A

แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com

ติดต่อ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500

          บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2563 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง

           ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!