หมวดหมู่: ตลาดหลักทรัพย์

ดัชนีหุ้นไทยภาคเช้าปิดบวก 9.07 จุด ขานรับคืบหน้าวัคซีนโควิด แต่ยังวิตกสหรัฐ-จีนขัดแย้งstock inside


SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,350.14 จุด เพิ่มขึ้น 9.07 จุด (+0.68%) มูลค่าการซื้อขายราว 27,222.34 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก ขานรับความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 แต่ดัชนีปรับขึ้นในกรอบจำกัดจากความวิตกสถานการณ์ความขัดแย้งของสหรัฐและจีน และความเสี่ยงไวรัสโควิด-19 ระบาดรอบสองในไทย น่าจะยังกดดันการเคลื่อนไหวดัชนีภาคบ่ายยังทรงตัวรอปัจจัยใหม่ ให้แนวรับ 1,340 จุด และแนวต้าน 1,352-1,354 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,350.14 จุด เพิ่มขึ้น 9.07 จุด (+0.68%) มูลค่าการซื้อขายราว 27,222.34ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,353.98 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,344.76 จุด

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก ตอบรับรายงานข่าวความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ของโมเดอร์นา (Moderna) บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นของดัชนียังอยู่ในกรอบจำกัด จากความกังวลต่อความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบที่สองในไทย หลังพบทหารอียิปต์และเด็กหญิงซูดานที่เดินทางเข้าประเทศไทยติดเชื้อและเดินทางไปในพื้นที่สาธารณะ

นอกจากนี้ ตลาดฯ ยังมีความกังวลต่อความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐกับจีน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐลงนามบังคับใช้กฎหมายการคว่ำบาตรจีน เพื่อตอบโต้การที่จีนแทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกง รวมถึงลงนามในคำสั่งของฝ่ายบริหารเพื่อยุติการให้สถานะพิเศษแก่ฮ่องกงด้วย โดยประเด็นดังกล่าวกดดันให้ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปรับลดลงในวันนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ตลาดฯ ยังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มแบงก์จากความคาดหวังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เล็งขยายเวลาการลดเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) โดยส่งสัญญาณในงานสัมมนานักวิเคราะห์ (Analyst meeting) เมื่อวานนี้ (14 ก.ค.) ซึ่งคงต้องรอดูความชัดเจนเรื่องดังกล่าวจาก ธปท.อีกครั้ง นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูผลประกอบการไตรมาส 2/63 ของกลุ่มแบงก์ที่จะเริ่มทยอยออกมาในช่วงนี้ รวมถึงการจัดทำแผนบริหารจัดการระดับเงินกองทุนในระยะ 1-3 ปีข้างหน้า หรือ Stress Test หลังเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งจะต้องนำส่งแผนต่อ ธปท.ในสิ้นเดือนก.ค.นี้

ส่วนแนวโน้มการซื้อขายภาคบ่าย คาดว่าดัชนีหุ้นไทยจะยังแกว่งทรงตัวเพื่อรอดูปัจจัยใหม่ โดยมองแนวรับที่ 1,340 จุด และแนวต้านที่ 1,352-1,354 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

CPF มูลค่าการซื้อขาย 2,266.45 ล้านบาท ปิดที่ 34.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

EA มูลค่าการซื้อขาย 1,487.40 ล้านบาท ปิดที่ 48.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

STGT มูลค่าการซื้อขาย 1,388.45 ล้านบาท ปิดที่ 79.75 บาท ลดลง 4.25 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย   709.40 ล้านบาท ปิดที่ 55.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

MINT มูลค่าการซื้อขาย 615.03 ล้านบาท ปิดที่ 18.80 บาท ลดลง 0.30 บาท

--อินโฟเควสท์

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!