หมวดหมู่: มติ ครม.

1aaaD


การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สำหรับโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าในเมืองย่างกุ้ง (เขต North Okkalapa และเขต North Dagon)

          คณะรัฐมนตรีมีมติ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
         1. อนุมัติให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) ดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (เมียนมา) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าในเมืองย่างกุ้ง (เขต North Okkalapa และเขต North Dagon) ในรูปแบบเงินกู้เงื่อนไขผ่อนปรน (Concessional Loan) ทั้งจำนวน วงเงินกู้ จำนวน 1,458.248 ล้านบาท
         2.อนุมัติให้สำนักงบประมาณ (สงป.) จัดสรรเงินงบประมาณแผ่นดินเป็นรายปี โดยเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2566 รวมระยะเวลา 3 ปี รวมวงเงินที่จะขอรับการจัดสรรเงินงบประมาณทั้งสิ้นเท่ากับ 729.124 ล้านบาท ดังนี้
          ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564   การจัดสรรเงินงบประมาณให้ สพพ.   145.000   ล้านบาท
          ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565   การจัดสรรเงินงบประมาณให้ สพพ.   401.000   ล้านบาท
          ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566   การจัดสรรเงินงบประมาณให้ สพพ.   183.124   ล้านบาท
                                                 รวม                                               792.124   ล้านบาท


         3. มอบหมาย สพพ. ดำเนินการกู้เงิน จำนวน 729.124 ล้านบาท ตามรูปแบบและเงื่อนไขที่กำหนด
         4. กรณีเมียนมาผิดนัดชำระหนี้ ให้รัฐบาลจัดสรรเงินงบประมาณให้ สพพ. ตามจำนวนที่ชำระหนี้ ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยเพื่อชำระคืนแหล่งเงินกู้ไปก่อน และเมื่อ สพพ. สามารถเรียกเก็บหนี้ได้จะนำเงินดังกล่าวส่งคืนคลังต่อไป


         สาระสำคัญของเรื่อง
         1. คณะกรรมการบริหารสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (คพพ.) ในการประชุม คพพ. ครั้งที่ 11/2556 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556 ครั้งที่ 9/2561 เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2561 และครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 ได้มีมติอนุมัติการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เมียนมาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าในเมืองย่างกุ้ง ภายในวงเงิน 1,458.248 ล้านบาท เพื่อดำเนินการก่อสร้าง/ปรับปรุงสถานีไฟฟ้าย่อยและสายส่งในเขต North Okkalapa ในรูปแบบเงินกู้เงื่อนไขผ่อนปรน (Concessional Loan) ทั้งจำนวน ซึ่งใช้แหล่งเงินจาก 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ขอรับจัดสรรเงินงบประมาณแผ่นดินเป็นรายปี จำนวน 3 ปี (ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564-2566) โดยสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) จะเสนอขอให้สำนักงบประมาณ (สงป.) จัดสรรเงินงบประมาณแผ่นดินเป็นรายปี วงเงิน 729.124 ล้านบาท และส่วนที่ 2 สพพ. จะกู้เงินจากสถาบันการเงินภายในประเทศ วงเงิน 729.124 ล้านบาท ตามรูปแบบและเงื่อนไขที่กำหนด ทั้งนี้ในกรณีที่เมียนมาผิดชำระหนี้ ขอให้รัฐบาลจัดสรรเงินงบประมาณให้ สพพ. ตามจำนวนที่ชำระหนี้ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยเพื่อชำระคืนแหล่งเงินกู้ไปก่อน และเมื่อ สพพ. สามารถเรียกเก็บหนี้ได้จะนำเงินดังกล่าวส่งคืนคลังต่อไป ซึ่ง สงป. ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวแล้วไม่ขัดข้องที่ สพพ. จะเสนอเรื่องนี้ต่อคณะรัฐมนตรี โดยมีความเห็นเพิ่มเติมว่า เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะถดถอยและมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องต่างๆ เช่น การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สงครามการค้า ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น สพพ. จึงควรตระหนักถึงความสำคัญและกำหนดแนวทางและวิธีการบริหารจัดการเพื่อรองรับความเสี่ยงในทุกปัจจัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอย่างรอบคอบ
         2. การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เมียนมาสำหรับโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าในเมืองย่างกุ้งดังกล่าวส่งผลดีต่อทั้งเมียนมาและไทย สำหรับเมียนมา โครงการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจำหน่ายไฟฟ้า สามารถรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในเมียนมา อีกทั้งสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติ สำหรับไทย การให้ความช่วยเหลือทางการเงินดังกล่าวเป็นการสนับสนุนการผลิต การค้า และบริการของผู้ประกอบการไทย รวมถึงการจ้างงานในประเทศไทย อีกทั้งจะช่วยดึงดูดนักลงทุนชาวไทยให้เข้าไปลงทุนในเมียนมามากขึ้น เนื่องจาก สพพ. ได้กำหนดเงื่อนไขให้เมียนมาใช้วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ จากประเทศไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของมูลค่าสัญญา รวมทั้งกำหนดให้ใช้บริการผู้รับเหมาก่อสร้างและวิศวกรควบคุมงานจากประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินโครงการ อีกทั้งสามารถสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศอีกด้วย ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลไทยเคยให้ความช่วยเหลือแก่เมียนมาผ่าน สพพ. มาแล้ว 1 ครั้ง โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติ (24 ธันวาคม 2562) อนุมัติการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน (เงินกู้) แก่เมียนมา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการพัฒนาเมืองภายใต้ระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ระยะที่ 3 ในส่วนของเมืองเมียวดี นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังเคยให้ความช่วยเหลือแก่เมียนมาในลักษณะเงินให้เปล่าด้วย โดยคณะรัฐมนตรีมีมติ (4 มิถุนายน 2558) อนุมัติเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่าแก่เมียนมา จำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองแม่สอด พร้อมสะพานข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 (กรมทางหลวง)
         3. ในประเด็นที่ สพพ. จะขอให้รัฐบาลจัดสรรเงินงบประมาณให้ สพพ. ตามจำนวนที่ชำระหนี้ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยเพื่อชำระคืนแหล่งเงินกู้ไปก่อนในกรณีที่เมียนมาผิดนัดชำระหนี้ นั้น เนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติ (24 ธันวาคม 2562) เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการพัฒนาเมืองภายใต้ระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ระยะที่ 3 ในส่วนของเมืองเมียวดี โดยในกรณีที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาผิดนัดชำระหนี้ ให้ กระทรวงการคลัง โดย สพพ. พิจารณาใช้เงินสะสมของหน่วยงานในการชำระต้นเงินและดอกเบี้ยคืนแหล่งเงินกู้เป็นลำดับแรก ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปในแนวทางเดียวกับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เมียนมาตามนัยมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวเห็นควรให้ สพพ. ใช้เงินสะสมของหน่วยงานในการชำระต้นเงินและดอกเบี้ยคืนแหล่งเงินกู้เป็นลำดับแรก และกำหนดแนวทางและวิธีการบริหารจัดการเพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 14 กรกฎาคม 2563
สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396


AO7360

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!