ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้     ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)

ไซด์เวย์ / ปรับฐานบ้าง เน้นเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางมีธีมหนุน

KGI ประเมิน SET Index วันพุธไซด์เวย์ / ปรับลงในกรอบจำกัด... หลังจากเมื่อวานนี้ ดัชนีฯ เปิดบวกแรงตามภาวะตลาดหุ้นโลกที่ร้อนแรงช่วงที่ตลาดหุ้นไทยปิดทำการ แต่ตลาดได้ถอยกลับลงมาในช่วงบ่าย สะท้อน valuations ที่ตึงตัว และตลาดหุ้นต่างประเทศที่พลิกมาลบ... ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยแวดล้อมเป็นลบเล็กน้อย กล่าวคือ i) รอง ปธน. สหรัฐฯ ไมค์ เพนซ์ แถลงว่าคณะทำงานของ ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์น่าจะจำกัดวงเงินของมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 รอบใหม่ไว้ที่ 1 ล้านล้านเหรียญฯ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าที่ตลาดคาด โดยเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนยกระดับความคาดหวังต่อมาตรการรอบใหม่ของสหรัฐฯ หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์แถลงว่าสหรัฐฯ เตรียมแจกเงินเพิ่มเติมอีก ii) จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ของทั้งโลกขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง ตามการติดเชื้อที่เร่งขึ้นมากในสหรัฐฯ และบราซิล... ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯ ยังคงมุมมองว่าตัวเลขติดเชื้อดังกล่าวจะมีผลกระทบน้อยต่อตลาดการเงิน ตราบเท่าที่ไม่มีการปิดเมือง/ปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจรอบใหม่ ด้านปัจจัยภายในประเทศ วันนี้จะมีการประชุม ครม. ประจำสัปดาห์ ซึ่งน่าติดตามว่าจะมีแนวนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆ เพิ่มเติมหรือไม่

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)

เก็งกำไร AAV*, STA*, CPF*

                AAV* (เป้า Consensus 2.08 บาท / สูงสุด 3.90 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 2.0 บาท / แนวต้าน 2.20 บาท หากผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไป 2.40 บาท (Trailing stop 1.96 บาท) 2) ประเมินรับอานิสงส์ Sentiment บวกจาก i) การผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ ii) มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภาครัฐฯ โครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" อุดหนุนค่าตั๋วเครื่องบิน + ค่าที่พัก iii) ภาวะการแข่งขันอุตสาหกรรมการบินลดลงมาก ทำให้ปัจจัยกดดันเรื่องการลดค่าตั๋วฯ ลดลงหลังจากนี้ และ iv) รอผลสรุปความช่วยเหลือซอฟท์โลน สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำช่วยธุรกิจสายการบินจากภาครัฐฯ 3) ประเมินผลการดำเนินงานพ้นจุดต่ำสุด ใน 2Q63 ขณะที่ PBV ต่ำเพียง 0.59 เท่า

                STA* (เป้า Consensus 28.7 บาท / สูงสุด 39.9 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 29.5 บาท / แนวต้าน 33 บาท (Stop loss 27 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้น Laggard บ.ลูก STGT โดย หากคำนวณ Valuation จาก Market cap STGT ราคาปิดวานนี้ตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ 50.75% จะคิดเป็นมูลค่าราว 5 หมื่นล้านบาท มากกว่า Market cap ของ STA* ล่าสุดที่เพียง 4.6 หมื่นล้านบาท 3) Consensus ประเมิน PE ปีนี้เพียง 16.2 เท่า

                CPF* (เป้าพื้นฐาน 38 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 31.5 บาท / แนวต้าน 32.5 – 33 บาท หากผ่านได้แนวต้านถัดไป ±35 บาท (Stop loss 30.5 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q63 รับอานิสงส์ ราคาเนื้อหมูและไก่ที่ฟื้นตัวดีต่อเนื่องในขณะนี้ ... อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์ Weekly Agricultural วันนี้ 3) ค่าเงินบาทเริ่มอ่อนตัวเป็นบวกต่อการส่งออกใน 3Q63 ที่เป็น High season

หุ้นมีข่าว

(+) NEX พุ่งแรงลุ้นรับข่าวดี ผู้ถือหุ้นอนุมัติ EA* ซื้อ 40% (ข่าวหุ้น) EA* ควง NEX เทรดสนั่น-ราคาหุ้นพุ่งแรง ลุ้นรับข่าวดีที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น NEX วันที่ 10 ก.ค.นี้ ไฟเขียวบริษัทย่อย EA* เข้าซื้อหุ้น NEX กว่า 40% คิดเป็นเงิน 1,500 ล้านบาท โบรกฯชี้ผลประโยชน์ win-win ทั้ง 2 ฝ่าย EA* มีตลาดจำหน่ายแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ขณะที่ NEX ปลดล็อกปัญหาเงินลงทุน แต่เชื่อ EA*-NEX ไม่สนประมูลรถเมล์ของขสมก.

(+) เปิดพอร์ต GULF* รุกทั่วโลก ทุ่ม 1.9 หมื่นล้าน ซื้อโรงไฟฟ้าเยอรมนี-เล็งลงทุนเพิ่ม 'ยุโรป-สหรัฐ' (กรุงเทพธุรกิจ) เผยปีนี้ใช้งบกว่า 3.5 หมื่นล้าน ลงทุน 6 โครงการใหญ่ "กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี" เดินหน้าขยายลงทุน ต่อเนื่อง เผยปีนี้ใช้งบลงทุนแล้วกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท ผ่าน 6 โครงการใหญ่ ล่าสุดอัดงบอีก 1.9 หมื่นล้านบาท เข้าซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานลม 464 เมกะวัตต์ในเยอรมนี หนุนกำไรเพิ่มปีละ 1.2-1.5 พันล้านบาท พร้อมศึกษาแผน เข้าลงทุนต่อเนื่องใน "เวียดนาม-ยุโรป-สหรัฐ" ย้ำเงินลงทุน ยังเหลืออื้อ เหตุตั้งงบไว้กว่า 4-5 หมื่นล้านบาท พร้อมปรับเป้ารายได้ปี 64 เพิ่มแตะ 5.6 หมื่นล้าน

(- กลุ่มธนาคารพาณิชย์) แบงก์โดดอุ้มลูกหนี้ 'เฟส 2' ประกาศลดเพดานดอกเบี้ย-แฮร์คัทหนี้-ขยายเวลาชำระ (กรุงเทพธุรกิจ) "กรุงศรีคอนซูเมอร์" ยืดจ่ายยาวสุด 90 งวด "แบงก์พาณิชย์-นอนแบงก์" สนองนโยบาย ธปท. ออกมาตรการช่วยเหลือ ลูกหนี้ 'เฟส 2' ทั้งการลดเพดานดอกเบี้ยขยายเวลาชำระ หวังช่วยลดภาระให้ลูกค้า โดย "กรุงศรีคอนซูมเมอร์" ยืดหนี้ยาว 90 เดือน ด้าน "แบงก์กรุงเทพ" ลดดอกเบี้ยเป็นการทั่วไปครอบคลุมสินเชื่อเกือบทุกประเภท "กสิกร" พักเงินต้น จ่ายแค่ดอกเบี้ย 6 เดือน

(+ ACE, TPCH, UAC) ลุยโรงไฟฟ้าชุมชน ชงแผน'พีดีพี'เข้าครม.วันนี้ (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดทำสมุดปกขาวพลังงานหมุนเวียน (White Paper RE) ภาคประชาชน ฉบับปฐมฤกษ์เสร็จเรียบร้อย เตรียมจัดเวทีรับฟังความเห็นจากภาคประชาชน 7 ส.ค. 63 หวังให้ภาครัฐนำไปใช้ประกอบการขับเคลื่อนนโยบายพลังงานให้เกิดประโยชน์กับทุกภาคส่วนและยกระดับสิ่งแวดล้อม พร้อมลุ้นแผนพีดีพีฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 ซึ่งบรรจุโรงไฟฟ้าชุมชนเข้า ครม. 8 ก.ค.นี้ หวังเดินหน้าเปิดรับซื้อควิกวิน 100 เมกะวัตต์ได้ทันที

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

                หุ้นที่แนะนำ "Let profit run" โดยกำหนดจุดล็อกกำไร Trailing stop: RS* (Trailing stop 15.5 บาท), JMART (Trailing stop 10.2 บาท), GGC* (Trailing stop 10 บาท)

                หุ้นที่รอลุ้นผ่านแนวต้านสำคัญ หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" EA* (รับ 47 บาท / ต้าน 50 บาท / Trailing stop 46 บาท) INTUCH* (รับ 56.5 บาท / ต้าน 58 บาท / Trailing stop 56 บาท) SEAFCO (รับ 5.7 บาท / ต้าน 6.0 บาท / Trailing stop 5.65 บาท)

                VGI* (เป้า Consensus 7.88 บาท) แนวรับ 7.5 บาท / แนวต้าน 8.0 - 8.1 บาท (Trailing stop 7.3 บาท)

                GULF* (เป้าพื้นฐาน 41 บาท) แนวรับ 38 บาท / แนวต้าน 39 - 41 บาท (Trailing stop 37 บาท)

                SPRC* (เป้าพื้นฐาน 10 บาท) แนวรับ 6.8 บาท / แนวต้าน 7.2 - 7.7 บาท (Stop loss 6.6 บาท)

                AMATA* (เป้าพื้นฐาน 18.5 บาท) แนวรับ 15.8 บาท / แนวต้าน 16.4 - 17 บาท (Stop loss 15.4 บาท)

                STEC* (เป้าพื้นฐาน 19.2 บาท) แนวรับ 15.4 บาท / แนวต้าน 16.2 - 16.4 บาท (Stop loss 15.0 บาท)

                EP (เป้าพื้นฐาน 5.1 บาท) แนวรับ 3.7 บาท / แนวต้าน 3.84 - 4.0 บาท (Trailing stop 3.6 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

                CPALL* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 79 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 2Q63 = 2.7 พันล้านบาท (-45% YoY, -53% QoQ) โดยประเมินอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Same store sales growth: SSSG) คาดจะลดลง -17% (ผลจากมาตรการล็อคดาวน์) อย่างไรก็ดีคาดผลการดำเนินงานจะฟื้นใน 2H63 นอกจากนี้ฝ่ายวิจัยฯประเมินราคาหุ้นสะท้อนความเสี่ยงดีล Tesco ไปพอสมควรแล้ว แนะนำ "ถือ" รอการฟื้นตัวหลังการรายงานงบฯ 2Q63

                MAKRO แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 38 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 2Q63 = 954 ล้านบาท (-19% YoY และ -43% QoQ) เนื่องจากได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่จากมาตรการล็อคดาวน์ แม้ฝ่ายวิจัยฯจะคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานฟื้นตัวใน 2H63 แต่ประเมินประมาณการฯปัจจุบันมีความเสี่ยง Downside การปรับลดประมาณการฯลง 8-10%

                BH* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 123 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 2Q63 = 157 ล้านบาท (-78.3% YoY, -79.5% QoQ) โดยได้รับผลกระทบในช่วงมาตรการล็อคดาวน์ อย่างไรก็ดีจากสถานการณ์ในปัจจุบันประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวใน 2H63

******************************************

กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web