หมวดหมู่: กทม.

BMTA Nuttachat


ขสมก.เล็งบอกเลิกสัญญางานติดตั้ง Cash Box กับ CHO แต่คงสัญญา E-Ticket

     นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานคณะกรรมการบริหารกิจการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า โครงการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) พร้อมติดตั้งอุปกรณ์เครื่องหยอดเหรียญ (Cash Box)  วงเงิน 1,655 ล้านบาทนั้น ภายหลังจากที่มีข้อร้องเรียนว่าเครื่องเก็บค่าโดยสารหยอดเหรียญ บนรถโดยสารที่ติดตั้งไปแล้วนั้น พบปัญหาไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ตลอดจนมีบางส่วนไม่สามารถใช้งานได้เลย ดังนั้น ขสมก.เตรียมทำการบอกเลิกสัญญาการติดตั้ง Cash Box ให้ติดตั้งแค่ไม่เกิน 800 คัน แต่ยังคงสัญญาในส่วนของการติดตั้งระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) ไว้ตามเดิม 2,600 คัน

     เนื่องจาก ขสมก.เห็นว่า เครื่องหยอดเหรียญไม่มีความจำเป็นในระยะยาว เพราะรัฐบาลกำลังผลักดันให้ระบบรถเมล์ในอนาคตเป็นแบบไร้เงินสด (Cashless) ซึ่งจะให้ผู้โดยสารชำระค่าโดยสารผ่านบัตรเพียงใบเดียวแบบ E-Ticket เพื่อลดค่าใช้จ่ายพนักงานด้านกระเป๋ารถเมล์ ซึ่งในทางปฏิบัติแล้ว ขสมก.สามารถทำได้เพราะในสัญญาระบุว่า ขสมก.ขอบอกเลิกหรือแก้ไขสัญญาบางส่วนได้ แต่ต้องเรียกเอกชนมาเจรจากันว่าจะมีข้อสรุปอย่างไร แต่ทั้งนี้การบอกเลิกสัญญาติดตั้งระบบดังกล่าวจะไม่ถือว่าเอกชนไม่ปฏิบัติตามสัญญาและต้องถูกตัดสิทธิ์จากโครงการจัดหาจัดหารถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) แน่นอนเพราะเป็นคนละโครงการกัน

        ทั้งนี้ บมจ.ช ทวี (CHO) เป็นผู้รับงานโครงการติดตั้งระบบ E-Ticket พร้อมเครื่องเก็บค่าโดยสารหยอดเหรียญ (Cash Box) บนรถเมล์ 2,600 คัน ขณะเดียวกันกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ซึ่งประกอบด้วย บริษัท และบมจ.สแกน อินเตอร์ (SCN) ยังได้งานจัดหารถเมล์ NGV จากขสมก.ด้วย

     ส่วนประเด็นหนี้สินจำนวนนับแสนล้านบาทของขสมก.นั้น  นายณัฐชาติ กล่าวว่า ภายหลังจากที่ขสมก.ได้จัดซื้อรถเมล์ใหม่ พร้อมลดค่าใช้จ่ายในองค์กรตามแผนฟื้นฟูกิจการ รวมถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาลดต้นทุนแล้ว คาดว่าภายใน 3-5 ปี จะเห็นขสมก.กลับมามีรายได้เป็นบวกและมีกำไรอีกครั้ง จากนั้นภายใน 10 ปีตั้งเป้าหมายว่าขสมก.จะสามารถปลดหนี้แสนล้านบาทได้ เนื่องจากหนี้สินส่วนใหญ่ขององค์กรราว 84% ของมูลค่าหนี้ทั้งหมดนั้นเป็นหนี้สินที่เกิดจากนโยบายรัฐบาล ดังนั้น จึงเตรียมเสนอให้รัฐบาลรับภาระหนี้ส่วนใหญ่ไปเพื่อแบ่งเบาภาระให้กับขสมก.ในการดำเนินธุรกิจเป็นผู้ประกอบการเต็มตัวในอนาคต

                อินโฟเควสท์

ขสมก.เตรียมเปิดประมูลจัดซื้อรถเมล์ใหม่อีก 700 คันในปี 61-เล็งเสนอแผนฟื้นฟูกิจการเข้าบอร์ด ม.ค.นี้

      ขสมก.เตรียมเปิดประมูลรถเมล์ใหม่อีก 700 คันในปี 2561 ทั้งรถไฟฟ้า และดีเซล-ไฮบริด ขณะที่แผนฟื้นฟูกิจการ เตรียมเสนอเข้าบอร์ดพิจารณาใน ม.ค.61 ก่อนเสนอ คนร.และครม.พิจารณา คาดแล้วเสร็จกลางปี

       นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานกรรมการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ขสมก. เตรียมเสนอแผนฟื้นฟูกิจการให้คณะกรรมการ พิจารณาในเดือนมกราคม 2561 จากนั้นจะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ก่อนเสนอ ครม.พิจารณาต่อไป คาดว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จภายในกลางปี 2561

      สำหรับ ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561 ขสมก.ตั้งเป้าที่จะเปิดประมูลรถเมล์ใหม่ จำนวนประมาณ 700 คัน แบ่งเชื้อรถเชื้อเพลิงดีเซล-ไฮบริด 2 สัญญา ๆ ละไม่เกิน 300 คัน ราคาเฉลี่ยคันละ 5-6 ล้านบาท และรถเมล์ไฟฟ้าอีก 20 -30 คัน จำนวน 1 สัญญา ราคาคันละประมาณ 10 - 11 ล้านบาท

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไท

กลุ่ม SCN-CHO เซ็นสัญญาขสมก.คว้างานรถเมล์ NGV 489 คัน มั่นใจส่งล็อตแรก 100 คัน ภายในมี.ค.61

     บมจ.สแกนอินเตอร์ (SCN) และบมจ.ช ทวี (CHO) ภายใต้กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ลงนามในสัญญาการซื้อขายรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรถโดยสาร จำนวน 489 คัน กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ในช่วงเช้าวันนี้ (27 ธ.ค.) มีมูลค่าโครงการประมาณ 4,261 ล้านบาท โดยมั่นใจว่าจะส่งมอบงานล็อตแรกจำนวน 100 คัน ภายในเดือนมี.ค.61 และจะส่งมอบได้ครบตามสัญญาภายในเดือนมิ.ย.61

        สำหรับ การดำเนินโครงการนี้ SCN จะเป็นผู้ให้การสนับสนุนด้านเงินทุนเพื่อดำเนินโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศ NGV และซ่อมแซมบำรุงรักษารถโดยสาร พร้อมทั้งนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจร เข้ามาสนับสนุนในด้านองค์ความรู้ด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับระบบเชื้อเพลิง NGV ขณะที่ CHO มีประสบการณ์งานซ่อมบำรุงและศูนย์ซ่อม ทำให้เชื่อว่าจะสามารถรองรับการดำเนินโครงการดังกล่าวได้ด้วยดี

     นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า การจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปตามกระบวนการในพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และเชิญผู้สังเกตการณ์ จากองค์กรต่อต้านคอรัปชั่น (ประเทศไทย) เข้าร่วมสังเกตการด้วยทุกครั้ง ทำให้มั่นใจได้ว่าการจัดซื้อรถโดยสารในครั้งนี้เป็นไปด้วยความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

       นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHO กล่าวว่า  บริษัทฯ มีความพร้อมในทุกๆ ด้านที่จะรับงานดังกล่าว ทั้งทีมงาน โรงงาน และซัพพลายเออร์จากทั้งในและต่างประเทศที่มีความพร้อมจะสนับสนุนการจัดหาตัวถัง คัสซี และชิ้นส่วนสำคัญอื่นๆ ตามแผนงานที่เราวางไว้อย่างเต็มที่ ประกอบกับบริษัทฯ ได้เคยรับงานในลักษณะใกล้เคียงกันมาแล้ว ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถส่งมอบรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) ได้ตามกำหนดเวลา  โดยระยะเวลาส่งมอบงานล็อตแรกจำนวน 100 คัน ภายในเดือนมี.ค. และส่งมอบอีก 120 คัน ภายใน 100 วัน และอีก 100 คันส่งมอบภายใน 120 วัน และที่เหลือ 189 คันจะส่งมอบได้ภายใน 180 วัน ตามสัญญา หรือภายในเดือนมิ.ย.61

      “บริษัทฯ มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง SCN ที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษเกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจร ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้งานในครั้งนี้ รวมถึงงานซ่อมบำรุงรักษารถโดยสารเป็นระยะเวลา 10 ปี ให้เดินหน้าอย่างรวดเร็วและเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ประกอบกับบริษัทฯ ได้มีประสบการณ์งานซ่อมบำรุงอยู่แล้วมาอย่างยาวนาน  จากงานซ่อมบำรุงและศูนย์ซ่อมสำหรับ Tesco-Lotus & Linfox และลูกค้าทั่วไป และศูนย์ซ่อมรถบรรทุกสิบล้อ 24 ชั่วโมง ที่แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ซึ่งมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในกลุ่มธุรกิจการขนส่ง ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถตอบโจทย์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้อย่างดีเยี่ยม” นายสุรเดช กล่าว

    ด้านนายฤทธี กิจพิพิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCN กล่าวว่า บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ ‘กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO’ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทฯ และ ช ทวี ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรถโดยสาร จำนวน 489 คัน โดยราคาที่เสนอให้แก่ ขสมก. นั้นถือเป็นราคาที่เหมาะสมต่อการดำเนินโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) และซ่อมแซมบำรุงรักษารถโดยสาร เพื่อให้มีรถโดยสารที่พร้อมให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

     สำหรับ การดำเนินโครงการนี้ SCN ได้ให้การสนับสนุนทางด้านเงินทุนเพื่อดำเนินโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) และซ่อมแซมบำรุงรักษารถโดยสาร ให้แก่กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างมีศักยภาพ พร้อมทั้งจะนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจร ที่เป็นรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและได้รับการยอมรับในภูมิภาคอาเซียน เข้ามาสนับสนุนในด้านองค์ความรู้ด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับระบบเชื้อเพลิง NGV ในโครงการนี้ทั้งหมด เช่นเทคนิคการประกอบติดตั้งเครื่องยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ NGV เป็นเชื้อเพลิงในรถโดยสาร รวมถึงการให้คำปรึกษาด้านเทคนิคด้านการซ่อมบำรุงรักษารถโดยสาร เพื่อให้ได้ ขสมก. มีรถโดยสารที่มีคุณภาพเข้ามาวิ่งให้บริการแก่คนกรุงเทพฯ ภายใต้มาตรฐานการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น

   “เราเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนในการดำเนินโครงการนี้ พร้อมใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจรมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี ที่ และได้รับการยอมรับจากคนในแวดวงอุตสาหกรรมพลังงานในภูมิภาคอาเซียน ยกย่องให้ SCN เป็น King of NGV in ASEAN ซึ่งมีองค์ความรู้ในด้านก๊าซธรรมชาติ NGV ที่พร้อมเข้ามาใช้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติ NGV ให้แก่ ช ทวี เพื่อดำเนินโครงการนี้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” นายฤทธี กล่าว

    อินโฟเควสท์

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!