รมว.คลัง รับอยากให้ กนง.คงดอกเบี้ยต่อสิ้นปีนี้ เหตุเศรษฐกิจฟื้นแบบกระจุกตัว พร้อมห่วงภาคส่งออก เจอผลกรทบจากปัญหาการค้าสหรัฐ - จีน ยันไม่มีแผนเก็บฮุบเงินจากบัญชีนิ่ง แต่กันแบงก์นำเงินไปใช้แบบพลการ

        นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่าต้องการให้ กนง.คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับปัจจุบันที่ร้อยละ 1.50 ต่อไปจนถึงสิ้นปีนี้ แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว แต่ยังไม่กระจายตัวไปตามพื้นที่ต่างๆ ที่ได้คาดการณ์เอาไว้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำกว่ากรอบที่กำหนดไว้   แต่กระทรวงการคลัง มีหน้าที่ให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับ ธปท.เท่านั้น ไม่ได้มีการแทรกแซงให้ ธปท.คงอัตราดอกเบี้ยไว้แต่อย่างใด

      ด้านปัจจัยต่างประเทศ ยอมรับเป็นห่วงปัญหาความขัดแย้งสหรัฐและจีน หากมีการขึ้นกำแพงภาษีจริงอาจจะส่งผลต่อการส่งออกสินค้าของไทยไปประเทศเหล่านี้ ซึ่งทุกประเทศจะได้รับผลกระทบตามไปด้วยไม่ใช่ประเทศไทยเพียงประเทศเดียว และอาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกโดยรวมชะลอตัวลงกว่าที่คาด แต่ขณะนี้ยังยืนยันว่าการส่งออกของไทยจะยังคงเป็นไปตามเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์

       ส่วนความคืบหน้าการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การบริหารจัดการเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวของสถาบันการเงิน ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.ให้พิจารณา โดยยืนยันหลักการจะให้สถาบันการเงินนำบัญชีเงินฝากของประชาชนที่ไม่มีการเคลื่อนไหวเกิน 10 ปี นำส่งกองทุนของกรมบัญชีกลาง เพื่อนำมาบริหารจัดการรวมเป็นเงินคงคลัง แต่จะมีบัญชีดังกล่าวแยกชัดเจน เพื่อให้เจ้าของบัญชีสามารถทำการเบิกถอนได้ตลอดเวลาหากต้องการ ซึ่งเบื้องต้นคาดมีบัญชีไม่เคลื่อนไหวดังกล่าวประมาณ 10,000 ล้านบาท

      "เงินดังกล่าวจะไม่ได้นำมาใช้ เพื่อการใดการหนึ่ง แต่จะให้กรมบัญชีกลางนำมาดูแลเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและเป็นการป้องกันไม่ให้สถาบันการเงินนำเงินในบัญชีเหล่านี้ไปใช้โดยพลการ"นายอภิศักดิ์ กล่าว

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย