GL 'มานิดา ซินเมอร์แมน' ที่ปรึกษากฎหมาย 'กรุ๊ปลีส' แจง DSI ยังไม่ได้แจ้งกล่าวโทษ

     ศาลล้มละลายกลางยกคำร้องของ JTA หลังศาลล้มละลายกลางได้ไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของ บมจ.กรุ๊ปลีส (GL) ที่ร้องโดย JTA และมีคำสั่งยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากจำนวนหนี้ที่ J Trust Asia Pte. Ltd. หลังได้ฟ้องเป็นจำนวนหนี้ที่ไม่แน่นอน เนื่องจากศาลแพ่ง ยังมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งในคดีที่ยื่นฟ้องก่อนหน้านั้นแต่อย่างใด                

       นางสาวมานิดา ซินเมอร์แมน บริษัท ฮันตั้น แอนด์ วิลเลียมส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ปรึกษากฎหมายของ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) GL เปิดเผยว่า ศาลล้มละลายกลาง (ประเทศไทย)มีคำสั่งยกคำร้องของ JTA โดยให้เหตุผลว่า GL ไม่ได้มีหนี้สินล้นพ้นตัว และยังมีสินทรัพย์มากกว่าหนี้สิน อีกทั้งศาลฯต้องการให้การพิจารณาคดีที่อยู่ในการไต่สวนของศาลแพ่งมีคำตัดสินออมาก่อน พร้อมทั้งศาลล้มละลายกลางยังมีข้อสังเกตว่า JTA อาจมีเจตนาไม่สุจริตในการยื่นคำร้องฟื้นฟูกิจกการ อย่างไรก็ตาม JTA ยังมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน

      "ในส่วนศาลล้มละลายกลางยกคำร้องของ JTA หลังจากที่ยื่นขอฟื้นฟูกิจการ ซึ่งหลังจากนี้ทาง GL อาจจะมีการพิจารณาฟ้องกลับ JTA ได้ โดยมีเหตุผลของศาลล้มละลายกลางที่ให้มาประกอบ"

      ส่วนกรณี วันที่ 26 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา JTA ได้ร้องขอฝ่ายเดียวเพื่อให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว (Injunction) ให้มีผลบังคับต่อ GLH ไม่ให้ดำเนินการใดๆเกี่ยวกับทรัพย์สินของตน หรือจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สินในมูลค่าไม่เกิน 180,000,000 เหรียญสหรัฐฯ ยื่นต่อศาลสิงคโปร์ ให้ดำเนินการทางฎหมายกับ Group Lease Holdings Pte.Ltd (GLH) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ และเป็นบริษัทลูกของบริษัท ทำให้ GLH ไม่ให้ดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินของ GLH ได้

      ก่อนหน้านี้ GLH ได้ร้องขอต่อศาลสิงคโปร์ เพื่อให้ยกคำร้องคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าวเป็นผลสำเร็จ ศาลแห่งประเทศสิงคโปร์ได้พิจารณาคดีและพยานหลักฐานต่างๆ แล้วจึงมีคำสั่งยกเลิกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวที่เคยออกให้แก่ JTA โดยการร้องขอฝ่ายเดียว ดังนั้น นับตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 GLH จึงไม่ถูกสั่งห้ามดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินของ GLH อีก ซึ่งนับเป็นอีกก้าวสำคัญ และเป็นสัญญาณที่ดีของบริษัทสามารถดำเนินธุรกรรมทางการเงินได้โดยปกติ ซึ่งรวมถึงสามารถชำระหนี้เงินกู้คืนมายังบมจ.กรุ๊ปลีส (GL)ได้ด้วย     

       ขณะเดียวกัน หุ้นของ GL ยังคงมีเครื่องหมาย NP ปรากฏอยู่ เพราะยังไม่มีการแก้ไขงบการเงิน เนื่องจากต้องรอคำตัดสินจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI ) และอัยการสูงสุดก่อนจึงจะกลับไปแก้ไขงบการเงินได้ แต่ปัจจุบัน DSI ยังไม่ได้แจ้งให้บริษัทไปชี้แจงข้อมูลในเรื่องดังกล่าว ซึ่งยังคงต้องรอการติดต่อเข้ามาก่อน หากมีความคืบหน้ากรณีดังกล่าวบริษัทจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

        แต่ความกังวลหลักยังอยู่ โดยเฉพาะเรื่องการกล่าวโทษจากสำนักงานคณะกรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และการลงบัญชีเป็นเท็จ โดยให้ตั้งสำรอง และเมื่อ GLH บริษัทลูก จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ พ้นข้อกล่าวหาสามารถชำระหนี้เงินกู้คืนมายังบมจ.กรุ๊ปลีส (GL) ได้กลต.จะให้บันทึกบัญชีอย่างไร

        ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษ นายมิทซึจิ โคโนชิตะ อดีตผู้บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL ต่อกรมสอบ DSI ในความผิดเกี่ยวกับการทุจริตเข้าข่ายเป็นธุรกรรมอำพราง ยักยอกยินยอมให้ลงบัญชี และทำบัญชีไม่ตรงต่อความเป็นจริง โดย ก.ล.ต.ได้แจ้งให้ GL แก้ไขงบการเงิน แบบรายงาน 56-1 และแบบรายงาน 56-2 ให้ถูกต้อง ตรงต่อความเป็นจริงโดยเร็ว

        และที่ผ่านมา กรุ๊ปลีส GL ไม่เคยได้รับเอกสารเป็นทางการในการสั่งดำเนินการ(Special Audit) เพียงแต่ทางบริษัทฯต้องการให้เกิดความโปร่งใส ได้สรรหาผู้สอบบัญชีทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อทําการตรวจสอบบัญชีพิเศษสําหรับรายการเงินให้กู้ยืมแก่ผู้กู้กลุ่มไซปรัส และผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์ (Special Audit) โดย Group LeaseHoldings Pte. Ltd, ซึ่งตั้งอยู่ ณ ประเทศสิงคโปร์ และบริษัทเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด ได้ว่าจ้าง บริษัท มาซาร์ส จํากัด ซึ่งเป็นสํานักงานสอบบัญชีในประเทศสิงคโปร์ เพื่อทําการตรวจสอบบัญชีพิเศษดังกล่าว ทั้งนี้ ระยะเวลาในการดําเนินการตรวจสอบบัญชีพิเศษขึ้นอยู่กับรายละเอียดของเอกสารที่เกี่ยวข้องและการตรวจสอบและวิเคราะห์จากทาง บริษัท มาซาร์ส จํากัด โดยบริษัทจะดําเนินการติดตามอย่างใกล้ชิด