ธปท. สนองนโยบายรัฐหนุนผู้ประกอบการทำบัญชีเล่มเดียว หวังยกระดับบัญชีโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นคู่ค้า และนักลงทุน ด้าน 5 แบงก์รับลูก ออกมาตรการพิเศษ ให้ดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำ เพียง 5% คงที่ 2 ปี 

       นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงมาตรการบัญชีเล่มเดียวของภาครัฐว่า มาตรการบัญชีเล่มเดียว ได้ออกเป็นกฎหมายเพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จัดทำบัญชีและงบการเงินที่สะท้อนสถานะการเงินอย่างโปร่งใส ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 เป็นต้นไป ซึ่งการทำบัญชีเดียวนั้น จะทำให้งบการเงินมีความโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้า และนักลงทุน รวมถึงเป็นการยกระดับธรรมาภิบาลของเอสเอ็มอีด้วย ขณะที่สถาบันการเงินจะสามารถวิเคราะห์สินเชื่อและบริหารความเสี่ยงของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

      “การทำบัญชีเล่มเดียว จะทำให้การทำธุรกิจมีความโปร่งใส น่าเชื่อถือ และมีความยั่งยืนในระยะยาว เสริมสร้างบรรยากาศการทำธุรกิจและการลงทุน และในการพิจารณาสินเชื่อ สถาบันการเงินต้องให้ความสำคัญกับงบการเงินที่ผู้ประกอบการใช้แสดงต่อกรมสรรพากรมากยิ่งขึ้น แต่ขอยืนยันว่า งบการเงินไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่สถาบันการเงินใช้ในการพิจารณา แต่สถาบันการเงินจะใช้แผนธุรกิจ หรือ ประมาณการกระแสเงินสด ภาวะเศรษฐกิจมหภาคในการพิจารณา ศักยภาพของธุรกิจและความสามารถในการชำระหนี้คืนของลูกค้า”นายสมบูรณ์ กล่าว 

       ด้านนายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า เพื่อเป็นการเพิ่มแรงจูงใจให้กับลูกค้าในการทำบัญชีเล่มเดียวนั้น 5 สถาบันการเงินขนาดใหญ่ ซึ่งจะประกอบด้วย ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY และ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB โดยสถาบันการเงินจะลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมเหลือ 5% ระยะเวลา 2 ปี สำหรับผู้ประกอบการที่ทำบัญชีเล่มเดียว 

        ขณะเดียวกัน สถาบันการเงินจะร่วมกันส่งเสริมเพื่อสร้างความรู้และสร้างความเข้าใจในการทำบัญชีเล่มเดียวให้กับผู้ประกอบการด้วย

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย