Corehoon
: ข่าวด่วน ทันเหตุการณ์ เศรษฐกิจ การลงทุน หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ไอที-เทคโนฯ รถยนต์ ท่องเที่ยว ต่างประเทศ รวดเร็วสดใหม่ทุกวัน 
AMATA วอนรัฐลดกักตัว 14 วัน เหลือ 10 วัน ชี้การเมืองวุ่นวายเป็นส่วนหนึ่งไม่ดึงต่างชาติเข้าลงทุน
AMATA วอนรัฐลดต้องกักตัว 14 วัน เหลือ 10 วัน เพราะ 14 วันเป็นระยะเวลาที่นาน หลังลูกค้าเลื่อนเจรจาซื้อที่ดินทำยอดขายปีนี้พลาดเป้า ชี้การเมืองวุ่นวายเป็นส่วนหนึ่งไม่เอื้อให้ดึงต่างชาติเข้าลงทุน
นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน AMATA เผยว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ยอดขายที่ดินของบริษัทในปี 2563 จะทำได้ไม่ถึงเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ 950 ไร่ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ที่ได้มีการเจรจาแสดงความสนใจซื้อที่ดินในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมไม่สามารถเดินทางเข้ามาเจรจาเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดินได้ เนื่องจากการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยต้องกักตัวนานถึง 14 วัน ซึ่งทำให้ลูกค้าชาวต่างชาติส่วนใหญ่ชะลอการเดินทางเข้ามา ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้แผนการลงทุนของลูกค้าบางรายถูกเลื่อนออกไป ซึ่งส่งผลกระทบต่อการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัท
โดยในปี 2563 นี้ จะเห็นถึงผลกระทบอย่างชัดเจนที่เกิดขึ้นกับลูกค้าภาคธุรกิจจากการลงทุนก่อตั้งโรงงานใหม่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมของบริษัทลดลงมาเหลือ 10 โรง เมื่อเทียบกับช่วงปกติหรือในปีก่อนๆที่จะมีลูกค้ามาลงทุนก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ 30-50 โรง/ปี
แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังไม่เห็นสัญญาณการกลับมาฟื้นตัวขึ้นที่ชัดเจน คาดว่าจำนวนการลงทุนก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัทจะยังไม่สามารถกลับเพิ่มขึ้นไปใกล้เคียงสถิติสูงสุดเดิมในช่วง 2 ปีก่อนที่ 101-102 โรง ได้อย่างเร็ว เนื่องจากยังคงต้องรอความชัดเจนของการนำวัคซีนโควิด-19 ออกมาใช้ได้จริง และทุกประเทศสามารถเข้าถึงการซื้อวัคซีนได้ จะทำให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ
ขณะเดียวกัน ยังมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องด้านมาตรการของภาครัฐที่ยังควบคุมให้นักลงทุนหรือนักธุรกิจชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยต้องกักตัว 14 วัน ซึ่งถือว่าเป็นระยะเวลาที่ค่อนข้างยาวนาน ทำให้นักธุรกิจและนักลงทุนเกิดความรู้สึกว่าไม่คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปในการกักตัว แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยจะคลี่คลายลงแล้วก็ตาม
ทั้งนี้ ในความคิดเห็นของบริษัทอยากให้ภาครัฐผ่อนคลายมาตรการการกักตัวของนักธุรกิจและนักลงทุนชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาติดต่อธุรกิจในประเทศไทยลดลงเหลือ 10 วัน จากเดิม 14 วัน เพื่อทำให้นักลงทุนและนักธุรกิจไม่เสียเวลานานมาก และดึงดูดให้นักลงทุนและนักธุรกิจเดินท่างเข้ามาเจรจาธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นผลบวกต่อหลายๆธุรกิจที่ต้องทำการติดต่อกับชาวต่างชาติ และทำให้สามารถปิดดีลการเจรจาต้างๆได้
"อยากให้ภาครัฐลดวันกักตัวมาเหลือ 10 วัน เพราะ 14 วันเป็นระยะเวลาที่นาน เขาเดินทางมาครั้งหนึ่งต้องเสียเวลาทำงานไปแล้วเกือบเดือน ซึ่งทำให้ชาวต่างชาติยังไม่เดินทางเข้ามาเจรจาและเซ็นสัญญา ซึ่งกระทบกับอมตะด้วย มีลูกค้าขอเลื่อนออกไปปีหน้าบางส่วน ก็ประมาณ 9-10 ราย พื้นที่ขายหลายร้อยไร่ ซึ่งถ้าลดวันกักตัวได้ ก็จะดึงดูดให้นักลงทุนและนักธุรกิจเข้ามา ส่วนปีหน้ามองว่าหากมีวัคซีนออมาใช้จริงเราก็จะไม่เหนื่อย แต่ถ้าไม่มีวัคซีนออกมาใช้จริง ภาวะยังคงเหนื่อยอีกปี ส่วนแผนการลงทุนคงจะมีการลดงบในบางส่วนที่ไม่จำเป็นลง เพื่อลดค่าใช้จ่ายของบริษัท"นายวิบูลย์ กล่าว
ส่วนสถานการณ์การเมืองที่วุ่นวาย ทำให้นักลงทุนต่างชาติรายใหม่ๆสะดุดใจ แต่นักลงทุนที่ลงทุนมาก่อนหน้านี้ เขาใจประชาธิปไตยแบบไทยๆ ดังนั้น อยากขอให้คนไทยรู้รักสามัคคี เคารพกฎกติกาบ้านเมือง เคารพในสิทธิเสรีภาพของคนคิดต่าง แต่ต้องไม่แตกแยก เพราะลำพังไวรัส Covid-19 ก็ทำให้ธุรกิจทุกอย่างหยุดชะงัก หยุดดำเนินการ หยุดเดินทางไปมาหาสู่กัน โดยมีผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมาก่อนหน้านี้ ดังนั้น จึงอยากให้คนไทยให้คิดถึงภาวะเศรษฐกิจของประเทศด้วย ความขัดแย้งจะทำประเทศเดินต่อไปไม่ได้
ปัจจุบันบริษัทมีที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมอมตะทั้ง 2 แห่ง รวม 13,000 ไร่ แบ่งเป็น ที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมอมตะในชลบุรี 9,000 ไร่ และที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมอมตะในระยอง 3,000 ไร่ ซึ่งปัจจุบันการลงทุนของลูกค้าที่สนใจจะเน้นไปที่นิคมอุตสาหกรรมในระยองเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่นิคมที่ใกล้ทางเลือกในการขนส่ง โดยเฉพาะท่าเรือ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ลูกค้าคำนึงถึงในการเลือกซื้อที่ดินลงทุน
ส่วนการดำเนินงานของ บริษัท โซเด็กซ์โซ่ อมตะ เซอร์วิสเซส จำกัด ได้ตั้งเป้าหมายจำนวนผู้รับบริการจากในปี 64 เพิ่มขึ้นเป็น 140 ไซต์งาน และเพิ่มเป็น 750 ไซต์งานภายในปี 68 ซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับธุรกิจดังกล่าวในปี 68 เพิ่มขึ้นแตะ 1.5 พันล้านบาท จากปีนี้ที่จะอยู่ที่ 165 ล้านบาท โดยที่บริษัทมีแผนจะพัฒนาการให้บริการในด้านต่างๆให้ทันสมัยและมีคุณภาพเพิ่มขึ้นไป
******************************************
