หมวดหมู่: ตลาดหลักทรัพย์

SET16


ดัชนี ตลาดหุ้นไทย ภาคเช้าพุ่งต่อไปเป็น 50 จุด ตามตลาดตปท.คาดหวังสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น - แรงซื้อหุ้นใหญ่หนุน

 

      ดัชนี หุ้นไทย เปิดเช้านี้พุ่งกว่า 40 จุด ก่อนปรับขึ้นต่อไปเป็นกว่า 50 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ส่วนใหญ่ดีดตัวขึ้นแรง จากความคาดหวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ดีขึ้น หลังจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐและหลายประเทศในยุโรป ชะลอตัวลงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับมีแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่เข้ามาต่อเนื่อง นำโดยหุ้น PTT ที่มีแรงซื้อเข้ามาอย่างคึกคัก หนุนภาพรวมการลงทุน

     เมื่อเวลา 10.00 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,184.87 จุด เพิ่มขึ้น 46.03 จุด (+4.04%)

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.42 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,189.38 จุด เพิ่มขึ้น 50.54 จุด (+4.44%)

       นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เปิดเทรดมาพุ่งกว่า 40 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ ที่เช้านี้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียต่างเคลื่อนไหวในแดนบวกต่อเนื่องจากวานนี้ที่บวกได้ดี 3-4% ขณะที่ตลาดบ้านเราปิดทำการวานนี้ไป เนื่องจากขานรับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกดีขึ้น จากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในอัตราลดลง

      นอกจากนี้ วันนี้บ้านเราก็จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะมีการพิจารณาการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะ 3 ซึ่งจะต้องติดตามเพราะจะมาช่วยหนุนตลาดฯได้

    อย่างไรก็ดี ตลาดฯอาจเผชิญแรงขายทำกำไรระหว่างทางได้ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,150-1,200 จุด

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์-อิงขาขึ้นตามตลาดภูมิภาค หลังเหตุแพร่ระบาดไวรัสโควิดทั่วโลกดีขึ้น

    นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway up เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างบวกกันราว 1% จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกดีขึ้น ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯที่ชะลอตัวลง และทางฝั่งยุโรปก็ดีขึ้น อย่างอิตาลี มีจำนวนผู้เสียชีวิตน้อยลง เป็นต้น แม้แต่ไทยก็พบผู้ติดเชื้อใหม่ล่าสุดแค่ 51 คน ต่ำกว่าหลักร้อยอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงภาครัฐฯก็ยืนยันจะยังไม่ใช้เคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง ทำให้คลายความกังวลไปได้

      อย่างไรก็ดี วันนี้ให้ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะพิจารณากระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท คิดเป็น 10% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งเป็นมาตรการระยะ 3 และติดตามการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กับรัสเซียในวันที่ 9 เม.ย.นี้ จับตาประเด็นการลดกำลังการผลิตน้ำมันจะออกมาเป็นอย่างไร

พร้อมให้แนวรับ 1,125-1,130 จุด ส่วนแนวต้าน 1,160-1,165 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (6 เม.ย.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,679.99 จุด พุ่งขึ้น 1,627.46 จุด (+7.73%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,663.68 จุด เพิ่มขึ้น 175.03 จุด (+7.03%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,913.24 จุด เพิ่มขึ้น 540.15 จุด หรือ +7.33%

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 302.56 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 42.98 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 343.93 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 109.42 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 34.84 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 35.66 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 13.82 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 123.87 จุด

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 เม.ย.63) 1,138.84 จุด เพิ่มขึ้น 0.57 จุด (+0.05%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,938.50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 เม.ย.63

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (6 เม.ย.63) ปิดที่ 26.08 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 2.26 ดอลลาร์ หรือ 8%

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 เม.ย.) อยู่ที่ -1.73 ดอลลาร์/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 32.80 ให้กรอบวันนี้ 32.70-32.85 จับตาครม.พิจารณามาตรการเยียวยาดูแลเศรษฐกิจชุดใหญ่

- "คลัง" เตรียมเสนอ ครม. อัดฉีดเงินเข้าระบบเพิ่มอีก 1.96 ล้านล้านบาท หวังดูแลเศรษฐกิจท่ามกลางวิกฤติโควิด ผ่านการออก พ.ร.ก.กู้เงิน 1.1 ล้านล้านบาท พร้อมดัน "แบงก์ชาติ" ออก พ.ร.ก.อีก 2 ฉบับ ทำซอฟท์โลน 5 แสนล้านบาท และทำ "คิวอี" เข้าซื้อหุ้นกู้เอกชนอีก 4 แสนล้านบาท หวังสร้างความเชื่อมั่นในตลาดบอนด์ ด้าน "ทีเอ็มบี" เผยปีนี้มีหุ้นกู้ครบดีลกว่า 5.44 แสนล้านบาท

- แบงก์-นอนแบงก์ เผยโควิด-19 ระบาด กระทบยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตไตรมาสแรก วูบ 12-13% เฉพาะเดือนมี.ค.ดิ่ง กว่า 30% ผลปิดห้าง-สถานที่ต่างๆ "เอสซีบี-กรุงศรีคอนซูมเมอร์" เตรียมทบทวนเป้าหมายปีนี้

- บอร์ด รฟท. เดินหน้าฟื้นฟูกิจการ อนุมัติจ้างที่ปรึกษาสำรวจที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทั่วประเทศกว่า 2 แสนไร่ ยกเครื่องฐานข้อมูลใส่ลงระบบดิจิทัล ก่อนลุยจัดระเบียบบริหารทรัพย์สิน สัญญาเช่าใหม่ เพื่อเพิ่มรายได้ เผยยังได้อนุมัติให้เดินหน้าประมูลบริหารพื้นที่สถานีรถไฟสายสีแดง 13 สถานีตลอดสาย

- ธ.ก.ส.เล็งลดเป้าหมายผลดำเนินงาน หลังโควิด-19 กระทบฐานลูกค้าเกษตร เตรียมวงเงิน 2 หมื่นล้านบาทช่วยสินเชื่อฉุกเฉินดอกต่ำ เริ่ม 15 เม.ย.นี้ ย้ำยื่นขอกู้ผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น เผยมาตรการลดกระทบโควิดระยะ 3 จะสร้างอาชีพเสริมช่วยแรงงานกลับถิ่น

 

*หุ้นเด่นวันนี้

- AOT (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 58 บาท เก็งกำไรรับกระแสผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ทั่วโลกเริ่มทยอยลดลงเป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว ทั้งนี้หากสถานการณ์การท่องเที่ยวกลับสู่ภาวะปกติ AOT จะเป็นผู้ประกอบการการท่องเที่ยวในไทยที่ได้ประโยชน์เป็นลำดับแรก (ด่านแรกก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้าประเทศไทย)

- AMATA (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 16 บาท ถูกกระทบทางอ้อมจากโควิด-19 เพราะเป็นอุปสรรคในการเดินทางเจรจาซื้อขายที่ดิน ทำให้การขายและโอนที่ดินในปีนี้มีโอกาสล่าช้า และส่งผลถึงยอดโอนในปีหน้า พร้อมปรับกำไรปี 2563-64 ลง 27% และ 10% ตามลำดับจากการปรับลดยอดโอนที่ดินเหลือ 600 ไร่ปีนี้ (-30% Y-Y) และ 700 ไร่ปีหน้า (+16% Y-Y) ด้านราคาหุ้นร่วงกว่า 50% ตั้งแต่ต้นปีสะท้อนปัจจัยลบมากไป ธุรกิจนิคมฯสำคัญต่อการขับเคลื่อนการลงทุนในประเทศและฟื้นเร็วหลังโควิด-19 คลี่คลาย

อินโฟเควสท์

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!