หมวดหมู่: บทวิเคราะห์

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 9-7-2020k f


Market Wrap-Up

  • •   SET ปิดวันที่ 8 ก.ค.63 ปิด -10.76 จุด อยู่ที่ 1,362.46 จุด มูลค่าการซื้อขาย 66,274 ลบ.ต่างชาติขาย 1,211 ลบ. สถาบันขาย 2,284 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 279 ลบ.ยอด NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 835 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น KBANK,SCB,ADVANC,PTTGC,BBL และมียอดขายหุ้น PTTEP,TOP,CPF,PTT,CPALL มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 398 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ KBANK,CPALL,AOT โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 3,841 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 104,496 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 7,653 ลบ.
  • •   ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones ปิด +0.68% , S&P500 +0.78% และ Nasdaq +1.44% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย Alibaba +8.95% หลังบริษัท Ant Financial Service บริษัทในเครือให้บริการชำระเงินเตรียมทำ IPO ส่วนสถานการณ์ระบาดไวรัสนั้น ม.วอชิงตันคาดผู้ติดเชื้อสหรัฐมีโอกาสเสียชีวิตถึง 208,000 ราย ภายในวันที่ 1 พ.ย. นี้ หากยังไม่สวมหน้ากาก ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด -0.67% กังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หลังยอดผู้ติดเชื้อไวรัสทั่วโลกสูงกว่า 12 ล.ราย และนักวิทยาศาสต์เตือนไวรัสสามารถแพร่ระบาดทางอากาศได้ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ปรับลดลง

Market View

  • •   ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เช่น Apple, Amazon, Alibaba เป็นกลุ่มที่ถูกผลกระทบน้อยจากการระบาดไวรัส Covid-19 ขณะที่เจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซ็นต์หลุยส์เผยอัตราการว่างงานสหรัฐปีนี้มีโอกาสลดลงสู่ระดับ 87 % จากปัจจุบันที่ 11 % สะท้อนมุมเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ส่วนสถานการณ์ระบาดไวรัสยังต้องติดตาม โดยวานนี้สหรัฐมีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 61,820 ราย เช่นเดียวกับเม็กซิโกมีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นสูงสุด 6,258 ราย จากสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ชัดเจนนัก ส่งผลให้ราคาทองคำ Gold Spot ปรับขึ้นอยู่ที่ 1,807 ดอลลาร์/ออนซ์ สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด -0.78 % ต่างชาติขาย 1.2 พัน ลบ. สถาบันขาย 2.2 พัน ลบ. หุ้นกลุ่มพลังงาน ขนส่งทางอากาศปรับลดลง จากความกังวลต่อการระบาดไวรัสรอบใหม่ อาจส่งผลให้ต้องกลับมาใช้มาตรการ Lock Down เช่นเดียวกับออสเตรเลีย ซึ่งจะกระทบต่อภาคท่องเที่ยว ( Travel Bubble ) ต้องเลื่อนออกไปจนถึง Q4 นี้ และเศรษฐกิจไทยอาจฟื้นตัวช้ากว่าคาดาการณ์ นักลงทุนอยู่ระหว่างรอรายงานกำไร Q2/63 ของกลุ่มธนาคาร ขณะที่ ครม.วานนี้ได้เริ่มอนุมัติงบ 1.5 หมื่น ลบ. เพื่อกระตุ้นการจ้างงานและยกระดับเกษตรกร และจะทยอยอนุมัติงบที่เหลือจากวงเงินรวม 4 แสน ลบ.

Daily Strategy

  • •   ดัชนี SET มีโอกาสอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับ 1,350-1,355 จุด แนวต้าน 1,370-1,375 จุด ตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่และรอรายงานกำไร Q2 ของกลุ่มธนาคาร แนะนำทยอยซื้อกลุ่ม Defensive เช่น CPF, TU, ADVANC, INTUCH, MCS
  • •     กลุ่มผู้รับเหมาโทรคมนานาคม* (ซื้อเก็งกำไร / ALT,INET,ITEL) เราแนะนำให้กลับมาเก็งกำไรในหุ้นเล็กที่แนวโน้มครึ่งปีหลังต่อเนื่องไปยังมี 2564 ยังคงสดใสจากงานใหม่ที่ทยอยเข้ามาตามการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมที่อยู่ในช่วงของการเร่งการลงทุน เช่น เสา, สถานี,อุปกรณ์ รวมถึงภาครัฐที่กำลังลงทุนทำระบบ Cloud และ DATA Center และระบบอินเตอร์เน็ตชายขอบ ทำให้หุ้นในกลุ่มนี้มีโอกาสได้งานเข้ามาเติม Backlog ค่อนข้างมาก และการลงทุนดังกล่าวมีความต่อเนื่องในช่วง 3-5 ปี ต่อจากนี้ตามการใช้งานที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และจะทวีคูณขึ้นหลังการให้บริการ 5G ในเชิงพาณิชย์ เราจึงแนะนำให้เข้าซื้อเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มนี้
  • •   PTG* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 18.30 บาท) ผู้บริหารปรับลดเป้าหมายการเติบโตของยอดขายลงเหลือ 13-15%YoY ขณะที่ EBITDA คาดเติบโต 10-12% พร้อมทั้งควบคุมค่าใช้จ่ายด้วยการปรับลดเงินลงทุนลง 50% เหลือ 2,500 ล้านบาท สำหรับเพิ่มจำนวนสถานีบริการ ธุรกิจ non-oil และธุรกิจใหม่ แนวโน้มผลประกอบการ 2Q63 คาดดีขึ้น QoQ แม้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ในเดือน เม.ย.แต่เริ่มกลับมาฟื้นตัวในเดือน พ.ค.-มิ.ย.หลังรัฐคลายมาตรการ Lock Down รวมถึงทิศทางค่าการตลาดที่ดีขึ้นช่วยชดเชย ส่วนแนวโน้มในช่วงครึ่งหลังของปีจะทยอยฟื้นตัวจากการยกเลิกเคอร์ฟิว การเปิดเทอม และนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ

Daily Key Factors

Oil Update (+) WTI Futures ส.ค.ปิด +$0.28 ดอลลาร์ อยู่ที่ $40.90 /บาร์เรล Brent Futures ก.ย. ปิด +$0.21 ดอลลาร์ อยู่ที่ $43.29 /บาร์เรล หลัง EIA รายงานสต็อคน้ำมันเบนซินลดลง 4.8 ล.บาร์เรล ลดมากกว่าคาดที่ 3.7 ล.บาร์เรล ขณะที่การนำเข้าน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 7.39 mb/d เพิ่มจากสัปดาห์ก่อนที่ 5.97 mb/d ซึ่งสะท้อนความต้องการใช้น้ำมันของสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัว

Gold Update (+) Gold Futures ส.ค.ปิด +10.70 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,820.60 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนยังต่อภาวะเงินเฟ้อในอนาคตอาจสูงขึ้น หลังธนาคารกลางต่าง ๆ ใช้มาตรการเพิ่มเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า Dollar Index -0.45% อยู่ที่ 96.4337

Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -40.97 ล้านดอลลาร์สหรัฐ   ขายหุ้นไทย -38.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโด +5.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -7.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อย อยู่ที่ 31.14 บาทดอลลาร์สหรัฐ

(-) ดัชนี BDI ปิด -100 อยู่ที่ 1,849 จุด

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 0.663 % , 2 ปี อยู่ที่ 0.163 %

(+) ค่าเงินหยวน off-shore แข็งค่าอยู่ที่ 6.9963/USD

(-) วานนี้สหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 61,820 ราย รวมอยู่ที่ 3,158,904 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 890 ราย รวมอยู่ที่ 134,862 ราย ( Worldometers )

Economic Calendar

ในประเทศ

3 ก.ค.   กระทรวงพาณิชย์ แถลงสถานการณ์ด้านราคาสินค้าและบริการ

8 ก.ค.   ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ฉบับย่อ

สัปดาห์ที่2 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัพเดตสถานการณ์ลงทุน

   ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงข้อมูลสรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์

15 ก.ค.     เปิดลงทะเบียนรับสิทธิโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน"

สัปดาห์ที่3   สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์

ต่างประเทศ

7 ก.ค.   US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs ( พ.ค.)

8 ก.ค.   US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

9 ก.ค.   US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

10 ก.ค.   US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เดือนต่อเดือน) (มิ.ย.)

Theme Strategy

(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*

(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL, CBG*, ICHI*, OSP*

(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียน BAM*, CHAYO*, JMART*, JMT*, MTC*, SAWAD*

(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*, STA*

(5) กลุ่มรับประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันอยู่ในระดับต่ำและการคลาย Lockdown TOP, PTTGC, IVL*, PRM*, PTG*, TASCO*

(6) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณ STEC, SEAFCO*

*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio July 2020: INTUCH*, ERW*, AAV, TASCO*, CPF*, BCH*

Analysts

Apichai Raomanachai           No. 002939

Nopporn Chaykaew               No. 043964

Piyatat Pasommanatsakul     No. 081741  

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!