หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
BLS
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 
 
ภาพตลาดและแนวโน้ม
"Trade talk"... Better late than never 
          เมื่อวานหุ้น SAWAD CBG TRUE EA SPRC ESSO TOP BEAUTY ขึ้นดีกว่าตลาด ส่วนใหญ่ตัวที่บวกแรงเมื่อวาน คือตัวที่ลงแรงเมื่อวานซืน โดยดัชนีฯยังคงมีความผันผวนสูงตามที่ประเมินไว้ 
          วันนี้คาดว่า ตลาดหุ้นไทยจะรีบาวด์ จากแรงซื้อดัก (+Cover short) ผลการหารือการค้า เพื่อบรรเทาความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง จีน-สหรัฐฯ ที่คาดว่าจะจัดขึ้นอย่างช้า ปลายเดือนนี้ หรือ อย่างเร็ว ก่อน 23 ส.ค. (ตามที่ตลาดคาดหวัง แต่ถ้าล่าช้า กว่า 23 ส.ค.เชื่อว่า ตลาดจะไม่ได้ลงแรงเพราะยังมึความหวังไปถึงสิ้นเดือน) เพื่อหยุดความเสี่ยง อัตราภาษี25% วงเงินสินค้า US1.6 หมื่นล้าน ที่จะเริ่ม 23 ส.ค.นี้      
          ระยะสัปดาห์ คาดดัชนีฯ ผันผวน มากขึ้นเมื่อเทียบกับ สัปดาห์ที่แล้ว โดยการปรับตัวลงของตลาดเมื่อวาน แล้วยืนได้ คาดว่าการปรับลงจะไม่ลึกไปกว่า 1,680 จุด แต่การปรับขึ้น คงคาดแนวต้าน 1,730 จุด (บวกลบวันละ 20 จุด อาจเกิดขึ้นได้ในสัปดาห์นี้)           
                               
What to watch : 
          (+) ก.พาณิชย์ จีน มีกำหนดจะเดินทางเจรจาการค้ากับ สหรัฐฯ ช่วงปลายเดือนนี้... 
          (+/-) บจ.จัดประชุม เพื่อรีวิว งบ 2Q18 และ ให้มุมมองทิศทาง อุตสาหกรรม และแนวโน้มรายได้ ในช่วงที่เหลือของปี (คาดราคาหุ้นจะ ขึ้น/ลง ตามมุมมองเชิง บวก/ลบ)
          พฤ 16 : Analyst meeting  SAWAD  MINT BANPU BPP BTS  ROBINS  MAKRO CBG  / Opp. Day JWD  MODERN PTL SPRC  ERW DOD (หุ้นตัวพิมพ์หนาเป็นตัวที่ขึ้นเมื่อวานนี้)  
          ศุกร์ 17 : Analyst meeting PCSGH TRUE GULF CENTEL SIRI / Opp. Day TM GCAP JUBILE TU BPP MINT BANPU   
          จันทร์ 20 : Analyst meeting TVO STA GPSC  พุธ 22 : MTC BGRIM  พฤหัส 23 : GFPT EGCO ศุกร์ 24: RATCH BJC   
           (0/-) MS ทีม Strategy ออกรายงาน อัพเดทภาวะตลาดหุ้นโลก โดยคงแนะนำให้ย้ายเงินไปพักในตลาดหุ้นที่ Low beta .คาดตลาดหุ้นทั้งตลาดเกิดใหม่ EM และ ตลาดพัฒนาแล้ว จะอยู่ในตลาดหมี ตลอด 1 สัปดาห์ และ 1 เดือนข้างหน้า โดยการลงแรงของตลาดหุ้นได้เตือนเราแล้ว อาทิ อเจนติน่า และตุรกี เนื่องจากสถานะทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และอ่อนไหวสุด ต่อ สภาพคล่องในตลาดโลกที่กำลังลดลง (QE  QT) ซึ่งจะส่งผลลบต่อ ตลาดหุ้นเกิดใหม่รายอื่นๆ ด้วย และ ตลาดหุ้น DM ก็หนีไม่พ้นกับ ภาวะตลาดหมีครั้งนี้เช่นกัน.../ เราคาดว่า ตลาดหุ้นไทย มีสถานะทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกว่า ดังนั้น จะได้รับผลกระทบจากภาวะตลาดขาลงทั่วโลกที่กำลังจะมาถึง น้อยกว่าตลาดหุ้นอื่น (ดู Figure 1 และ 2)
หุ้นแนะนำ 
          ESSO SPRC TOP  (TOP มีประชุมฯ วันนี้) เก็งกำไรตามข่าว การปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในอินเดียหยุดซ่อมนอกเหนือแผนการปิดซ่อมฯ หนุน Sentiment ค่าการกลั่นระยะสั้น ส่วนการลงทุนระยะกลาง โรงกลั่นเป็นหุ้นที่ต้องเก็บสะสม ไว้เล่นดัก ค่าการกลั่นค่าขึ้น 4Q18-1Q19 บวกกับ ฤดูพายุในสหรัฐฯ ถ้าเข้ามาเยอะ จะยิ่งหนุน Sentiment หุ้นกลุ่มนี้ 
          และ เก็งกำไรหุ้นที่มีประชุมวันนี้ จันทร์นี้ เช่น TVO GPSC GULF TRUE
รายงานวันนี้
D :  Still good for long term play
          D เป็นหุ้นที่ดีสำหรับการลงทุนในระยะยาว ถึงแม้ว่าผลประกอบการในไตรมาสที่ผ่านมาจะสร้างความผิดหวังให้กับตลาด แต่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะมีค่าใช้จ่ายในการควบรวมกิจการบันทึกเข้ามา ในขณะที่ฝั่งรายได้เติบโตดีไม่มีปัญหา เรามองว่าตลาดจะมีความมั่นใจการเติบโตมากขึ้นเมื่อเห็นงบ 3Q18 ที่คาดกำไรจะกลับมาเติบโตได้ดีจากการรวมงบ เดนทัลวิชั่น เข้ามา นอกจากนี้หากบริษัทสามารถทำมาร์จิ้นของสาขาเดนทัลแพลนเน็ต ได้ดีเหมือนกับสาขาเดิมของบริษัท จะส่งผลให้ประมาณการกำไรมีโอกาสปรับขึ้นได้ เราแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 12.50 บาท อิง PE 35x เท่ากับค่าเฉลี่ย Global healthcare บน EPS ปี 2018 
MAKRO : A long road to profitability overseas 
          ประเด็นจากการประชุมวานนี้ยังมีความกังวลในด้านธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งคาดแนวโน้มครึ่งหลังยังคงอ่อนแออยู่ อย่างไรก็ตามเรามองว่าการดำเนินงานในประเทศจะฟื้นตัวได้ค่อนข้างดี มีสัญญานการฟื้นตัว เช่น SSSG ที่กลับมาเป็นบวก และอัตรากำไรเริ่มขยายตัว เนื่องจากราคาสินค้าอาหารเริ่มฟื้นตัวขึ้น และการขยายในต่างประเทศชะลอลง ทำให้ค่าใช้จ่ายก่อนการดำเนินงานลดลง เรามีการปรับประมาณการกำไรปีนี้ลง 2% และปรับราคาเป้าหมายลงจาก 39.50 เป็น 37 บาทยังคงคำแนะนำ ถือ
SAWAD : Back on-track! 
          เรามีความมั่นใจมากขึ้นจากทั้งภาพของการปรับโครงสร้าง หนุนให้ NIM ดีขึ้น และอัพไซด์ด้านการตั้งสำรอง เรามีการปรับประมาณการ NIM ขึ้นจาก 16.5% เป็น 16.7% และปรับประมาณการกำไรขึ้น 2% เรามองว่ากำไรจะฟื้นตัวแข็งแกร่งใน 2H18 และ 2019 ทำให้เรามีการปรับคำแนะนำขึ้นจาก ถือ เป็น ซื้อ ราคาเป้าหมาย 45.50 บาท 
          ประเด็นหนุนหลักๆ จากประชุมเมื่อวาน เราเห็นว่า ราคาหุ้นที่แรลรี่ เป็นผลจาก กำไรจากการบริหารหนี้ NPA ที่ปีนี้บริษัทฯซื้อมาแล้วกว่า 2.3 พันล้านบาท ซึ่งหากสามารถบริหารได้ตามที่ประเมิน ราว 3.4 พันล้านบาท คาดกำไรจากการบริหารหนี้ก้อนนี้จะรับรู้ในปีนี้ ราว 575 ลบ. ซึ่งเรายังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการณ์ 
Quick Take 
GGC : Key takeaways from analyst meeting
          เราเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์เช้าวานนี้ ผู้บริหารมั่นใจว่ารับมือประเด็นสินค้าคงคลังหายได้ และเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก เราสัมผัสได้ว่านักลงทุนไม่มีความกังวลต่อประเด็นนี้แล้วและหันไปสนใจแนวโน้มธุรกิจของบริษัทแทน GGC ได้ผ่านช่วงที่แย่ที่สุดมาแล้ว หากมองไปข้างหน้า เราเชื่อว่าคาดการณ์กำไรสุทธิและกำไรหลักเติบโตแรง YoY ใน 3Q18 จะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้น ปัจจุบัน GGC เทรดบน PER ปี 2018 ที่ 9.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มโอลิโอเคมิคอลภูมิภาคที่ 18.4 เท่า และค่าเฉลี่ยกลุ่มปิโตรเคมีที่ 12.5 เท่าอยู่มาก คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 14 บาท
MINT : Key takeaways from analyst meeting 
          เราเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์เช้าวานนี้ ตลาดได้รับความมั่นใจว่าการซื้อ NH จะเพิ่มมูลค่าให้กับ MINT แม้ตลาดยังมีความกังวลต่อธุรกิจอาหาร เรามองว่ากำไรธุรกิจโรงแรมและ mix-use ที่น่าประทับใจจะหนุนให้ผลประกอบการเติบโตแข็งแกร่งใน 3Q18 และ 2H18 แม้กำไรธุรกิจอาหารไม่น่าตื่นเต้น อีกทั้งยังมีอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรจากการควบรวมงบของ NH ในปี 2019 เรามองว่าราคาหุ้น MINT ควรจะรีบาวด์ได้อีกเนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลดลงมากถึง 14% YTD ขณะที่เราคาดกำไรหลักปี 2018 จะเติบโตสูงถึง 17% มูลค่าหุ้นยังไม่แพง โดยเทรดบน PER ปี 2018 ที่ 27 เท่า คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 46 บาท  
ROBINS : Key takeaways from analyst meeting 
          เราเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์เช้าวานนี้ ประเด็นหลักๆที่พูดคุยในที่ประชุม ได้แก่ การดำเนินงานและแนวโน้ม โดยแผนการขยายธุรกิจยังเป็นไปตามเป้า แม้ SSSG ยังอ่อนแอ QTD แต่ ROBINS ยังคงเปาหมายเดิมที่ 0-1% ในปีนี้ อีกทั้งผลการดำเนินงานของธุรกิจศูนย์การค้าน่าจะแข็งแกร่งขึ้นใน 2H18 หนุนโดย GM ขยายตัว ทั้งนี้รายได้ค่าเช่าจะยังเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตหลัก เราคิดว่าราคาหุ้น ROBINS อยู่ในระดับต่ำ แต่ก็ยังไม่เห็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้นจนกว่าการเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าเฮาส์แบรนด์จะสำเร็จ
BPP : Key takeaways from analyst meeting  
          เราเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์เช้าวานนี้ เราสัมผัสได้ว่านักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อเปาหมายการดำเนินงานของผู้บริหาร BPP เปิดเผยว่าจากที่บริษัทได้เซ็นต์ MOU ตั้งแต่ปี 2016 ในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขนาด 200MW ในประเทศเวียดนาม มีโอกาสที่บริษัทจะลงทุนเพิ่มอีก 120MW หลังจากที่ประกาศลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 80MW อย่างไรก็ตาม แนวโน้มำไร 2H18 ของ BPP ไม่สดใสนัก เราเชื่อว่ายังไม่ใช่เวลาเหมาะสมในการเข้าสะสมหุ้น คงคำแนะนำ ถือ 
BANPU : Key takeaways from analyst meeting 
          เราเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์เช้าวานนี้ มุมมองของผู้บริหารต่อความต้องการถ่านหินยืนยันมุมมองเชิงบวกที่เรามีต่อ BANPU เราคาดกำไรหลักของบริษัทจะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ ใน 3Q18 และเราเชื่อว่าอุปสงค์ทั่วโลกต่อถ่านหินที่แข็งแกร่งที่ทำให้อุปทานขาดแคลนจะไม่ทำให้ราคาถ่านหินปรับตัวลงแรงในระยะสั้น คงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 25 บาท
BGRIM : Investing in a 257MW solar project in Vietnam 
          บ่ายวานนี้ BGRIM แจ้งกับ SET ว่าบริษัทได้ทำ Share Purchase Agreement เพื่อเข้าถือหุ้น 80% ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ขนาด 257 เมกะวัตต์ในประเทศเวียดนาม โดยคาดจะ COD ได้เดือนมิ.ย. 2019 เบื้องต้นเราประเมินว่าโครงการนี้จะเพิ่มกำไรสุทธิให้กับ BGRIM 158 ล้านบาท (ราว 4% ของประมาณการ ณ ปัจจุบัน) ในปี 2020 เมื่อโครงการนี้ดำเนินงานเต็มปี ดีลนี้คอนเฟิร์มมุมมองเชิงบวกที่เรามีต่อบริษัท เราคาดข่าวบวกนี้จะทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นได้ในระยะสั้น อีกทั้งเราประเมินว่าบริษัทจะรายงานกำไร 3Q18 เติบโต QoQ แม้เป็นช่วงโลว์ซีซั่น เรามองว่าถึงเวลาเข้าสะสมหุ้น คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 30 บาท
หุ้นมีข่าว
(*/+) โรงกลั่นคาดราคาหุ้นโรงกลั่น ลง สะท้อน งบ 2Q น่าผิดหวัง ไปแล้ว...เรามองว่าในไตรมาสนี้ งบกลุ่มนี้ จะเริ่มดีขึ้น บวก q-q แนะนำ ซื้อสะสม ดักฤดูกาล ที่ดีในช่วง 4Q-1Q ของทุกปี ด้านค่าการกลั่นระยะสั้น คาดได้ Sentiment บวกจาก ข่าว การปิดซ่อมบำรุง โรงกลั่นในอินเดีย บางแห่ง ซึ่งนอกเหนือแผนการปิดซ่อมบำรุง (ที่มา BLS research)  
(+) COM7  ปรับเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้โต 20% จากเดิมคาดโต 15% หลังครึ่งปีแรกรายได้สวย แย้มครึ่งปีหลังรุ่งรับไฮซีซั่น ทุ่ม 20 ล้านบาท เปิดตัว "BaNANA Mega Store" ที่ซีคอนสแควร์ คาดสร้างรายได้ 20 ล้านบาท/เดือน ช่วยลดค่าใช้จ่ายตั้งสำรองค่าเสื่อมสินค้า (ที่มา ทันหุ้น) 
          
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336 
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค 
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ 
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO12595

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!