หมวดหมู่: บทวิเคราะห์

บล.คิงฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 5-8-2020k f


Daily Theme to Play

Market Wrap-Up

  • • SET ปิดวันที่ 4 ส.ค.63 ปิด +9.58 จุด อยู่ที่ 1,330.81 จุด มูลค่าการซื้อขาย 55,135 ลบ.ต่างชาติขาย 1,823 ลบ. สถาบันซื้อ 2,434 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 401 ลบ.ยอด NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 1,161 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น CRC,BBL,ADVANC,ESSO,KBANK และมียอดขายหุ้น PTT,TCAP,PTTGC,IVL,CPALL มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 423 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ KBANK,CBG,CPALL โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 3,839 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 93,593 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 683 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones ปิด +0.62% , S&P500 +0.36% และ Nasdaq +0.35 ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน และ Apple ปรับขึ้นรับผลประกอบการดีกว่าคาดการณ์ ขณะที่ Microsoft ปรับลดลงอยู่ระหว่างรอการเจรจาซื้อ TikTok โดยมีเวลาเจรจาถึง 15 ก.ย. นี้ ส่วนรายงานทางเศรษฐกิจ ก.พาณิชย์สหรัฐเผยคำสั่งซื้อภาคโรงงาน มิ.ย. +6.2% ดีกว่าคาด +5% ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด -0.07% หลังบริษัท BP รายงานขาดทุนใน Q2/63 ที่ 6.7 พัน ล.ดอลลาร์ ขณะที่ไบเออร์รายงานขาดทุน 9.5 พัน ล.ดอลลาร์

Market View

  • ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐได้แรงหนุนจากรายงานคำสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงาน มิ.ย. +6.2% ดีกว่าคาดที่ +5% หลังเริ่มเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง ขณะที่สภาคองเกรสกำลังพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ซึ่งคาดจะได้ข้อสรุปในช่วงปลายสัปดาห์นี้ โดยวงเงินคาดราว 1.5 ลล.ดอลลาร์ จะมีเงินเปล่ากับชาวอเมริกันรายละ 1,200 ดอลลาร์ แต่ยังหารือเกี่ยวกับเงินช่วยเหลือคนว่างงานว่าจะเป็น 200 หรือ 600 ดอลลาร์/สัปดาห์ ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม คือ การหารือข้อตกลงการค้าสหรัฐ จีน ในเฟส 1 ช่วงกลางเดือนนี้ หลังจีนสั่งซื้อสินค้าสหรัฐเพียง 5 % ของเป้า 2.53 หมื่น ล.ดอลลาร์ในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งอาจจะเกิดความเสี่ยงความขัดแย้งรอบใหม่ได้ วันนี้ติดตาม ADP จะรายงานการจ้างงานภาคเอกชน ก.ค. คาด +1.2 ล.ราย & มิ.ย. +2.36 ล.ราย สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ฟื้นตัวปิด +0.73% สถาบันซื้อ 2.4 พัน ลบ. ต่างชาติขาย 1.8 พัน ลบ. โดยหุ้นกลุ่มขนส่ง, โรงไฟฟ้า ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้แรงหนุนจากสภาพคล่องในระบบ ส่งผลให้เม็ดเงินยังไหลเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก ขณะที่สัปดาห์หน้า ศบค.จะพิจารณาเปิดรับกลุ่มนักธุรกิจต่างชาติที่ต้องการเข้ามาทำธุรกิจ ส่วนวันนี้ติดตามการประชุม กนง. ซึ่ง Consensus คาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50 % ระหว่างรอประเมินปัจจัยเสี่ยง

Daily Strategy

  • ดัชนี SET คาดทรงตัวระหว่างรอรายงานกำไร บจ. Q2/63 รวมคาด -40% YoY และความเสี่ยงการหารือข้อตกลงการค้าเฟส 1 สหรัฐ-จีน ในกลางสัปดาห์หน้า วางแนวรับดัชนีที่ 1,3201,325 จุด แนวต้าน 1,340 จุด แนะนำเก็งกำไร ESSO,SPRC,CENTEL,BCH
  • • ILINK* ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 6.25 บาท*) เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่ตลาดประเมินกำไรไตรมาส 2 ขยายตัวได้ YoY เบื้องต้นตลาดประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 2 ที่ 48 ลบ. +77.5%YoY แต่ชะลอตัวลง -21%QoQ ส่วน Outlook ในช่วงที่เหลือของปีเราประเมินอัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นโดยงานกลุ่ม Distribute/Engineering อย่างโครงการ Satellite Terminal หรือ (CC3) ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำอยู่ในช่วงปลายโครงการและกำลังจะสิ้นสุดในช่วงไตรมาส 3 ขณะที่งานในกลุ่ม Telecom รายได้ยังมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง โดยมี Backlog รวมกว่า 4.3 พัน ลบ. ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ส่วนงานในกลุ่ม Distribute/Engineering มี Backlog อยู่ที่ 1.44 พัน ลบ. สำหรับผลการดำเนินงานปี 2563-2564 ตลาดประเมินกำไรสุทธิไว้ที่ระดับ 163 ลบ. และ 303 ลบ. เติบโตต่อเนื่อง +31%YoY และ +85%YoY ตามลำดับ
  • • PTG* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 20.00 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 2Q63 คาดดีขึ้น QoQ แม้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ในเดือน เม.ย.แต่เริ่มกลับมาฟื้นตัวในเดือน พ.ค.-มิ.ย.หลังรัฐคลายมาตรการ Lock Down รวมถึงทิศทางค่าการตลาดที่ดีขึ้นช่วยชดเชย ส่วนทิศทางของธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังจะทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง แม้ช่วง 3Q63 ที่ปกติจะเป็น Low Season แต่ปีนี้จะได้มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวของรัฐมาช่วย ซึ่งบริษัทคาดยอดขายทั้งปีจะเติบโต 8-13% และคาดค่าการตลาดเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1.85 บาทต่อลิตร อิงจาก Bloomberg คาดกำไรปี 63-64 ที่ 1.5 พันล้านบาท และ 1.7 พันล้านบาท -2.4%YoY และ +13.2%YoY

Daily Key Factors

Oil Update (+) WTI Futures ก.ย.ปิด +$0.69 ดอลลาร์ อยู่ที่ $41.70 /บาร์เรล Brent Futures ก.ย. ปิด +$0.28 ดอลลาร์ อยู่ที่ $44.43 /บาร์เรล รอ EIA จะรายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมา เบื้องต้นคาดลดลง 4.1 ล.บาร์เรล ตลาดน้ำมันรอประเมินผลกระทบจากการระบาดไวรัสและอุปทานของกลุ่มโอเปกพลังที่เพิ่มขึ้น หลังลดกำลังการผลิตที่ระดับ 7.7 ล.บาร์เรล/วัน

Gold Update (+) Gold Futures ธ.ค.ปิด +34.7 ดอลลาร์ อยู่ที่ 2,021.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี 30 ปี ลดลง เช่นเดียวกับ Dollar Index อ่อนค่า -0.18% อยู่ที่ 93.3827

Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -78.50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -58.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าอยู่ที่ 31.04 บาทดอลลาร์สหรัฐ

(+) ดัชนี BDI ปิด +78 จุด อยู่ที่ 1,463 จุด

(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 0.513 % , 2 ปี อยู่ที่ 0.111 %

(0) ค่าเงินหยวน off-shore ทรงตัวอยู่ที่ 6.97/USD

(-) วานนี้สหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 54,500 ราย รวมอยู่ที่ 4,918,416 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1,362 ราย รวมอยู่ที่ 160,290 ราย ( Worldometers )

(+) API รายงานสต็อคน้ำมันสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง -8.58 ล.บาร์เรล

Economic Calendar

ในประเทศ

05 มิ.ย. ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) (ปีต่อปี) ( ก.ค.)

ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย (ปีต่อปี) ( ก.ค.)

การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของไทย

05 มิ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย ( ก.ค.)

ต่างประเทศ

03 มิ.ย. CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนจากสถาบัน Caixin ( ก.ค.)

US ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) ( ก.ค.)

05 มิ.ย. US การเปลี่ยนแปลงในการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรมจากเอ

ดีพี (ADP) ( ก.ค.)

US ดัชนี PMI ภาคการบริการจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) ( ก.ค.)

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

06 มิ.ย. US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

07 มิ.ย. US การจ้างงานนอกภาคการเกษตร ( ก.ค.)

US อัตราการว่างงาน ( ก.ค.)

Theme Strategy

(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*

(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL, CBG*, ICHI*, OSP*

(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียน BAM*, CHAYO*, JMART*, JMT*, SINGER*

(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*, STA*

(5) กลุ่มรับประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันอยู่ในระดับต่ำและการคลาย Lockdown TOP, PTTGC, IVL*, PRM*, PTG*, TASCO*

(6) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณ STEC, SEAFCO*, PYLON*

*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio July 2020: INTUCH*, JKN*, TVO*, TASCO*, CPF*, BCH

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!